นอกจากนี้ การที่ค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่าลง แต่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ไม่ได้อ่อนมากที่สุดทำให้ได้รับผลกระทบจากสินค้าไทยยังค่อนข้างแพง อีกทั้งผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ยางพารา ข้าว เหล็ก มีการปรับตัวลดลงและมูลค่าส่งออกลดลงตามด้วย ซึ่งโดยภาพรวมปีนี้การส่งออกไทยคงไม่กลับขึ้นมาเป็นบวกได้
ขณะที่ ค่าเงินบาทในปีนี้มองว่าอาจจะเห็นอยู่ที่ 37 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่ากว่าเป้าที่ตั้งไว้ 35 บาท/ดอลลาร์เป็นผลมาจากการที่แต่ละประเทศได้มีการปรับค่าเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศของตัวเอง และเป็นผลมาจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมาแข็งแกร่งทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อีกทั้งการลดค่าเงินหยวนของจีนส่งผลกระทบต่อค่าเงินทั่วโลกให้มีความผันผวน และส่งผลกระทบต่อการค้าขายของไทยในระยะสั้นด้วย ราคาสินค้าไทยแพงขึ้นเมื่อส่งไปจีน
"ตอนนี้ถ้าเราจะแข่งขันส่งอออกกับประเทศอื่นได้ เราควรมีการปรับโครงสร้างการส่งออกในประเทศจากการที่เราผลิตสินค้าต้นน้ำ เปลี่ยนมาเป็นสินค้าประเภทที่ให้มูลค่าเพิ่ม แต่อาจจะต้องใช้เวลาหลายปี ส่วนค่าเงินบาทตอนนี้แม้จะลดไปมากแล้ว แต่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นยังอ่อนค่าไปน้อยกว่าเขา" น.ส.ธีรินทร์ กล่าว