รมว.ไอซีที กล่าวด้วยว่า จำเป็นต้องเข้าไปดูร่างกฎหมายที่เศรษฐกิจดิจิตอลทั้ง 8 ฉบับใหม่ ซึ่งในบางฉบับอาจต้องมีการทบทวนในเนื้อหาสาระของร่างกฎหมายให้เกิดความเหมาะสมมากขึ้น
สำหรับการมอบนโยบายในวันนี้ ได้ขอให้ทุกหน่วยงานไปจัดทำโครงการที่สามารถจับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรมมาอย่างน้อยหน่วยงานละ 2 โครงการ โดยเน้นโครงการที่มีคุณภาพ เป็นโครงการที่เห็นผลจริง และมีประโยชน์กับคนหมู่มาก ซึ่งได้กำชับว่าภายในเวลาอย่างน้อย 1 เดือนจะต้องเห็นแผนงานที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้เริ่มเดินหน้าโครงการได้
ส่วนการประมูลโครงการ 4G นั้น เป็นหน้าที่ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) จะต้องดำเนินการต่อไป แต่ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่า บมจ.กสท โทรคมนาคม(CAT) และ บมจ.ทีโอที ควรจะเข้าร่วมประมูลในโครงการดังกล่าวหรือไม่ โดยขอไปศึกษาในรายละเอียดในเรื่องนี้ก่อน
รมว.ไอซีที ยังได้มอบนโยบายในส่วนของการขับเคลื่อนการทำงานในช่วงต่อจากนี้ไป ประกอบด้วย 1.การใช้ระบบดิจิตอลเข้าไปส่งเสริมผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หรือผู้ประกอบการรายใหม่ 2.ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าไปช่วยพัฒนาด้านการศึกษาให้มากขึ้น โดยเฉพาะการวางรากฐานทางการศึกษาไปสู่ชนบทให้มากขึ้น 3.เน้นการใช้ E-government ในการให้บริการประชาชนของ ซึ่งจะมีการบูรณาการข้อมูลหน่วยงานภาครัฐในการตอบโจทย์การให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในการติดต่อกับภาครัฐให้คล่องตัวยิ่งขึ้น
ส่วนปัญหาภายในของ บมจ.กสท โทรคมนาคม และ บมจ.ทีโอทีนั้น รมว.ไอซีที กล่าวว่า ขอให้เดินหน้าแผนฟื้นฟูของแต่ละองค์กรให้มีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนประเด็นใดที่มีปัญหากับภาคเอกชนก็ขอให้เร่งดำเนินการหาข้อยุติให้ได้
สำหรับการปราบปรามเว็บไซต์ที่หมิ่นสถาบันนั้น จะต้องมีการดำเนินการอย่างรอบคอบ และเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งกระทรวงไอซีทีพร้อมจะประสานกับหน่วยงานความมั่นคงในการติดตามดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่ พร้อมยืนยันว่าการเข้ามารับตำแหน่ง รมว.ไอซีทีในครั้งนี้ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะตั้งใจเข้ามาทำงานตั้งแต่แรกอยู่แล้ว