นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายให้กับหน่วยงานในสังกัดกระทรวง โดยมั่นใจว่านโยบายต่างๆ ที่ได้มอบให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการนี้ จะช่วยทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นได้ภายใน 3 เดือนตามความคาดหวังของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องจากมาตรการต่างๆ เป็นการเข้าไปแก้ไขในจุดที่เป็นปัญหาอย่างแท้จริง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น และเศรษฐกิจไทยจะไม่ลงลึกไปมากกว่านี้ หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ได้ปรับตัวลดลงในทุกเดือน
สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเติมเงินลงไปช่วยกลุ่มเกษตรกรและรากหญ้านั้น รัฐบาลจะเร่งกระจายเม็ดเงินให้ลงไปถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้ครบภายใน 1 เดือน ขณะที่การเร่งผลักดันโครงการก่อสร้างขนาดเล็กของภาครัฐนั้น จะพยายามดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3-4 เดือน
รมว.คลัง กล่าวถึงภาคการส่งออกที่ยังไม่ฟื้นตัวว่า เป็นผลมาจากปัจจัยต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่ที่ทำได้ดีที่สุดในขณะนี้ คงมีแค่เพียงการขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศที่มีเศรษฐกิจดี และต้องหันมาให้ความสำคัญกับปัจจัยที่ควบคุมได้ นั่นคือการใช้จ่ายภายในประเทศ
"เราจะไปมุ่งหวังอะไรจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อีกต่อไปไม่ได้ มันเป็นฝันที่ลมๆ แล้งๆ แล้วตรงนั้นเราเข้าไปทำอะไรไม่ได้ ส่วนที่หลายคนถามว่ามาตรการที่ออกมานี้ จะมีผลทำให้ GDP ขยายตัวเพิ่มเท่าไร ต้องขอชี้แจงว่าตัวเลข GDP ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นมาตรการที่ออกมาจะช่วยให้การขยายตัวเพิ่มขึ้น 1-2% หรือเปล่า คงตอบไม่ได้ เพราะรัฐบาลคิดถึงประชาชนมากกว่าตัวเลข GDP อยากให้ประชาชนได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราทำลงไป" รมว.คลัง กล่าว