สำหรับงานที่ต้องการให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การทำการเกษตรให้เหมาะสมกับพื้นที่ ปัจจัยการผลิต การปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ ด้านสหกรณ์ ที่จะต้องให้ความสำคัญและการสามารถใช้สหกรณ์ให้เป็นประโยชน์ โดยสามารถกำกับตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพ การรวมกลุ่มและการเพิ่มประสิทธิภาพของสหกรณ์ได้ การปรับปรุงรัฐวิสาหกิจ การปรับปรุงโครงสร้างราชการให้เหมาะสม และที่สำคัญคือปัญหาหนี้สินเกษตรกร ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องต่อไป
นอกจากนี้ งานที่ต้องการให้เกิดความยั่งยืน ได้ให้ความสำคัญเรื่องของงานวิจัย โดยให้มีการสนับสนุนในทุกแผนงานหรือโครงการของกระทรวงเกษตรฯ การจัด Zoning การปลูกพืช การหาแหล่งน้ำ การสร้างความเข้มแข็งให้สหกรณ์ ต้องให้เกิดความยั่งยืนและความเข้มแข็งขึ้นในอนาคต การจัดลำดับความน่าเชื่อถือของสหกรณ์ การปรับปรุงรัฐวิสาหกิจให้สามารถพึ่งตนเองได้ และสามารถบริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งในภาคราชการ ต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง และการสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล
ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดให้มีการประชุมผู้บริหารระดับสูงทุกวันพุธ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทุกสัปดาห์อีกด้วย
สำหรับการมอบนโยบายแก่ผู้บริหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในวันนี้ รมว.เกษตรและสหกรณ์ให้ยึดหลักการทำงานและการเร่งรัดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ไม่คอร์รัปชั่นทั้งด้านการเงินและด้านข้อมูล โดยเฉพาะความโปร่งใสในข้อมูลที่จะสามารถนำเสนอผู้บังคับบัญชาและสาธารณะชนได้อย่างโปร่งใสชัดเจน การยึดหลักนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี คือ “ทำก่อนและทำทันที" ตาม Road Map 3 ระยะ ได้แก่ ระยะเร่งด่วน ระยะต่อเนื่อง และงานที่ต้องการให้เกิดความยั่งยืน การให้เกษตรกรเป็นศูนย์กลางการทำงานในทุก ๆ เรื่อง และจะต้องมีผู้รับผิดชอบการทำงานในทุกระดับอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังเน้นการขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง และมุ่งผลสัมฤทธิ์สู่เกษตรกรเป็นหลัก โดยจะต้องมีการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร รวมถึงสถาบันการศึกษา
สำหรับนโยบายที่นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา อดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้มีการดำเนินการมาแล้วนั้น ก็จะดำเนินการต่อไป โดยจะต้องขับเคลื่อนแผนงานโครงการให้เกิดประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว และเห็นผลได้ทันที