"เรามั่นใจนโยบายรัฐบาลมาถูกทางแล้ว ซึ่งแนวทางสอดคล้องกับข้อเสนอของภาคเอกชน และรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับภาคเอกชน แม้จะมีกลไกภาครัฐบางหน่วยงานที่ยังติดขัดเพราะกังวลเรื่องจะถูกตรวจสอบ" นายสุพันธ์ กล่าว
ด้านนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เชื่อมั่นในทีมเศรษฐกิจชุดใหม่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจให้เดินหน้าได้ โดยภาคเอกชนพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ แต่ขอให้ช่วยปลดล็อคเรื่องกฎระเบียบต่างๆ โดยเฉพาะกฎหมายการนำเข้าและส่งออก การขอใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจ เพื่อลดอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ
ขณะที่นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า เป็นนิมิตหมายดีที่ประเทศจะสามารถก้าวข้ามปัญหา เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันพัฒนาประเทศ
"เราต้องมองจุดแข็งเรื่องภูมิศาสตร์และพื้นฐานเศรษฐกิจ ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศส่งผลกระทบไปทั่วโลกและเป็นเรื่องที่เราต้องเผชิญหน้า" นายบุญทักษ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาลงโทษอดีตผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย(KTB ) ฐานทุจริตปล่อยสินเชื่อเมื่อวานนั้น นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของระบบธนาคารพาณิชย์ของไทย เนื่องจากหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 ระบบธนาคารพาณิชย์ของไทยมีความเข้มแข็งมากขึ้น มีการพัฒนามาตรฐาน การบริหารความเสี่ยง และการวางระบบตรวจสอบที่ชัดเจน เรื่องนี้น่าจะเป็นบทเรียนให้กับทุกองค์กรว่าจะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง