"หลังแบงก์ชาติออกมาตรการผ่อนคลายเรื่องการลงทุนในต่างประเทศ และมี comment ว่าค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศแล้ว ทำให้ตลาดมองว่าแบงก์ยังไม่เข้ามาแทรกแซงในช่วงนี้" นักบริหารเงิน กล่าว
ตลาดจับตาการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสันโฮล รัฐไวโอมิง วันที่ 29 ส.ค.นี้ ซึ่งนายสแตนเลย์ ฟิชเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด), นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ(BOE) และนายรากุราม ราชัน ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย จะอภิปรายเรื่องภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าไว้ระหว่าง 35.60-36.00 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 35.8575 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.76 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 121.08 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1291 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1244 ดอลลาร์/ยูโร
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มีแผนผ่อนคลายให้ผู้ลงทุนรายย่อยลงทุนในต่างประเทศได้โดยไม่ผ่านตัวกลาง เพื่อสนับสนุนให้คนไทยกระจายความเสี่ยงการลงทุน โดยมีทางเลือกการติดต่อกับสำนักงานในต่างประเทศเพื่อลงทุนได้เอง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน ซึ่งการผ่อนคลายดังกล่าวจะดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรกในปี 59 และระยะที่สองในปี 60
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุขณะนี้อัตราดอกเบี้ยในประเทศใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว โดยในอดีตอัตราดอกเบี้ยนโยบายเคยลงไปต่ำสุดที่ 1.25% ส่วนทิศทางต่อจากนี้จะมีการปรับขึ้นหรือปรับลดอัตราดอกเบี้ยคงต้องขึ้นกับประสิทธิผลจากการใช้นโยบายการเงิน แต่อัตราดอกเบี้ยก็ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ ธปท.จะใช้ดูแลเศรษฐกิจ ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าลงไปราว 8% ตั้งแต่ต้นปีนี้นั้นยังมองว่าอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) คาดเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตได้ถึง 3% หากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่ทำได้สำเร็จตามแผนงาน โดยคาดว่าการส่งออกทั้งปีนี้ยังคงติดลบราว 4% เนื่องจากช่วง 7 เดือนแรกติดลบไปแล้ว 4.7% และการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์ที่ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะหายไปราว 1 แสนคนในช่วง 1 เดือนหลังเหตุการณ์ดังกล่าว และหลังจากนั้น 2-3 เดือนอาจหายไปราว 2-3 แสนคน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ราว 0.05%
- นายอุดม วงศ์วิฒน์ไชย ผู้อำนวยการงานสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) เดือน ก.ค.58 หดตัวร้อยละ 5.3 ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือน ก.ค.58 อยู่ที่ 58.74 ลดลงจาก 60.07 ใน ก.ค.57 แต่คาดว่าดัชนีฯ จะกลับมาเป็นบวกในช่วงไตรมาสสุดท้าย จากปัจจัยส่วนหนึ่งกำลังซื้อตามฤดูกาล และอีกส่วนหนึ่งคือการกำหนดนโยบายจากภาครัฐซึ่งเชื่อว่าจะเน้นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในประเทศ รวมถึงนักลงทุนไทยและนักลงทุนต่างชาติ
- นายโคฟี่ อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจีนยังแข็งแกร่ง และไม่คิดว่าวิกฤตเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ ตลาดไม่ควรตื่นตระหนก แต่ต้องให้เวลาจีนในการจัดการตัวเองสักพักหนึ่ง
- กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่น เผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นในเดือน ก.ค.ลดลง 0.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และสะท้อนให้เห็นว่าการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลยังคงอ่อนแอ
- จับตาการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสันโฮล รัฐไวโอมิง วันที่ 29 ส.ค.นี้ นายสแตนเลย์ ฟิชเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และนายรากุราม ราชัน ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย เตรียมอภิปรายเรื่องภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก