เนื่องจากการประมูลที่ผ่านมามีปัญหาหลายเรื่อง เช่น ข้าวบางชนิดไม่มีราคาตลาดที่ใช้อ้างอิง และการกำหนดราคาขั้นต่ำ(ฟลอร์ไพรซ์) มีปัญหาชี้นำราคาตลาดในทางลง รวมถึงมีการหักค่าเสื่อมที่มากขึ้น เพราะข้าวเก็บไว้นาน จึงต้องปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ให้เหมาะสม คาดว่า การประมูลครั้งใหม่อาจจะไม่ประกาศราคาฟลอร์ไพรซ์ ส่วนจะมีรายละเอียดอย่างไรนั้นต้องรอเสนอ นบข.พิจารณาเห็นชอบก่อน
นอกจากนี้ กระทรวงฯ จะเสนอ นบข.พิจารณาการระบายข้าวเสื่อมสภาพปริมาณ 5.8 ล้านตันว่าจะระบายแบบยกคลัง หรือคัดแยกข้าวดีออกจากข้าวเสื่อมก่อนขาย โดยจะนำผลสรุปที่ได้จากการลงไปตรวจสอบในโกดังข้าวมาเสนอว่ามีค่าใช้จ่ายในการคัดแยกอย่างไรบ้าง เปรียบเทียบการขายแบบยกคลัง รวมถึงจะเสนอให้พิจารณารูปแบบการประมูลข้าวเกรดพี เกรดเอ และเกรดบี ซึ่งเป็นข้าวดี และมีคุณภาพผ่านมาตรฐานที่มีเหลือ 7.5 ล้านตัน ส่วนใหญ่เก็บอยู่ในโกดังที่ปนกับข้าวเกรดซีที่เสื่อมคุณภาพ โดยข้าวที่เหลืออยู่มีความซับซ้อนมากขึ้น มีชนิดข้าวปนกันอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งการระบายข้าวยังคงเปิดระบายต่อเนื่องตามความเหมาะสมของตลาด
สำหรับการเปิดประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาลครั้งที่ 6/58 ปริมาณ 732,000 ตัน ที่จะเปิดให้ผู้ที่สนใจยื่นซองตรวจสอบคุณสมบัติในวันที่ 7 ก.ย. และวันที่ 8 ก.ย. จะประกาศผู้ที่ผ่านคุณสมบัติ และให้ยื่นซองเสนอราคาภายในวันเดียวกัน โดยทั้งหมดเป็นข้าวดี คาดว่า จะมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลจำนวนมาก เพราะขณะนี้ผลผลิตข้าวยังไม่ออก ส่วนผลการประมูลข้าวของรัฐบาลชุดนี้รวม 9 ครั้งที่ผ่านมาสามารถอนุมัติขายได้ 4.3 ล้านตัน มูลค่า 40,700 ล้านบาท เมื่อรวมกับการจ่ายข้าวในสต๊อกรัฐบาลเป็นค่าปรับปรุงข้าวให้กับเอกชน เพื่อส่งมอบให้กับรัฐบาลประเทศต่างๆ ตามสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) แล้ว ทำให้สามารถระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลออกไป 4.46 ล้านตัน มูลค่า 40,800 ล้านบาท