ทั้งนี้ ผลการหารือร่วมกับกลุ่มเกษตรกรเกี่ยวกับราคารับซื้อผลปาล์มดิบใหม่นั้น ให้นำเสนอคณะอนุกรรมการฯ อีกครั้งในวันที่ 7 ก.ย.นี้ โดยราคาอาจต้องปรับลดลงตามราคาตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ส่วนราคารับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 100,000 ตันของอคส.ที่กก.ละ 26.20 บาท ก็ต้องปรับลดลงมาตามด้วย ส่วนจะเป็นเท่าไร ต้องรอข้อสรุปจากการหารือร่วมกับเกษตรกรก่อน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงสต็อกน้ำมันปาล์มดิบที่มีปริมาณมากถึง 400,000 ตันในปัจจุบัน ซึ่งมากกว่าระดับปกติอยู่ 200,000 ตัน เนื่องจากไม่มีการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไปต่างประเทศ เพราะราคาในไทยสูงกว่าราคาต่างประเทศ ทำให้ปริมาณจากเดิมที่ส่งออกอยู่ 150,00 ตันไม่ได้ส่งออกจนทำให้สต็อกในประเทศล้นมาก
ทั้งนี้ ที่ประชุมให้เดินหน้าโครงการวิสาหกิจชุมชน โดยให้รวมกลุ่มเพื่อดูแลผลผลิตแบบครบวงจร เพื่อให้มีอำนาจต่อรองกับผู้ประกอบการในการรับซื้อผลผลิตด้วย เบื้องต้นจังหวัดที่สามารถดำเนินการได้คือ จ.สุราษฎ์ธานี และ จ.กระบี่
"ส่วนการขึ้นทะเบียนเกษตรกร เพื่อนำผลปาล์มมาขายให้กับโรงสกัดที่เข้าร่วมโครงการนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดให้แก้ไขปัญหาภายใน 10 วัน ก็จะสามารถรับซื้อได้ ในช่วงที่ได้ผลสรุปของราคารับซื้อใหม่พอดี" รมว.พาณิชย์ กล่าว