แต่อย่างไรก็ดีทางศูนย์พยากรณ์ฯ ยังคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตได้ 2.5-2.9% แต่จะประเมินสถานการณ์และทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจอีกครั้งและจะประกาศสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ นายธนวรรธน์เชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้กองทุนหมู่บ้านเข้ามาเป็นกลไกหนึ่งนั้น น่าจะทำให้เม็ดเงินลงไปสู่ท้องถิ่นได้ง่ายขึ้นและก่อให้เกิดการจ้างงานในท้องถิ่น โดยเม็ดเงินดังกล่าวน่าจะมีการเบิกจ่ายและโอนได้เร็ว ซึ่งเชื่อว่าอย่างน้อยเม็ดเงินในส่วนของกลไกกองทุนหมู่บ้านและเม็ดเงินในส่วนของการเร่งรัดการใช้จ่ายสู่ระดับตำบล เฉพาะ 2 ส่วนแรกนี้คาดว่าเม็ดเงินจะลงไปสู่ระบบได้ภายใน 2 เดือน
แต่สำหรับส่วนที่ 3 คือ การเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณในส่วนของโครงการขนาดเล็กโครงการละประมาณ 1 ล้านบาทคาดว่าเม็ดเงินจะลงไปภายในเดือนธ.ค.
"อย่างน้อยงบเกือบ 1 แสนล้านบาทน่าจะกระจายลงสู่ท้องถิ่นได้ก่อนภายใน 2 เดือนนับจากนี้ ส่วนงบซ่อมสร้าง เชื่อว่าท้องถิ่นคงจะมีโครงการในใจอยู่แล้วคงทำได้ไม่ยาก ซึ่งอีกเกือบ 4 หมื่นล้านบาทจะเข้าระบบเศรษฐกิจในเดือนธันวาคม ดังนั้น เชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.3 แสนล้านบาท จะช่วยกระตุ้นจีดีพีได้ 0.7-1% แต่หากไม่มีมาตรการนี้ออกมา เศรษฐกิจปีนี้อาจโตได้ต่ำกว่า 2.5%"นายธนวรรธน์ กล่าว