โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และต่ำสุดในรอบ 15 เดือน จากสาเหตุสำคัญเรื่องความกังวลกรณีเกิดเหตุระเบิดราชประสงค์ สำหรับปัจจัยลบที่สำคัญ ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 58 เหลือ 2.7-3.2% จากเดิมคาด 3-4%, ควมกังวลเหตุระเบิดราชประสงค์กระทบจิตวิทยาเชิงลบต่อการท่องเที่ยว, ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง อันอาจกระทบต่อการส่งออกและเศรษฐกิจไทยในอนาคต, การส่งออกไทยในเดือนก.ค. -3.56% และ ราคาพืชผลทางการเกษตรที่ยังทรงตัวระดับต่ำ รวมถึงปัญหาภัยแล้ง และเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับ 34.31 บาท/ดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนก.ค.มาเป็น 35.42 บาท/ดอลลาร์ในช่วงสิ้นเดือนส.ค.
ขณะที่ปัจจัยบวก ได้แก่ การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของรัฐบาลประยุทธ์ 3 ส่งผลในเชิงจิตวิทยาเรื่องความเชื่อมั่น โดยเฉพาะการเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจภายใต้การนำของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี, ราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลง และ คณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.50%
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในเดือนส.ค.ที่ปรับลดลง สะท้อนว่าผู้บริโภคยังมองว่าเศรษฐกิจยังไม่ค่อยดีนัก แต่ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ยังไม่ลดลงไปมากเท่าที่ได้คาดไว้ เนื่องจากยังมีสัญญาณที่ดีจากที่ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อการปรับคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ ซึ่งจะต้องรอดูความชัดเจนจากผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.3 แสนล้านบาทนี้ ที่จะแสดงออกมาในดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนก.ย.นี้
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ คาดว่า การบริโภคของภาคประชาชนยังฟื้นตัวขึ้นไม่มากนักในช่วงนี้ เนื่องจากประชาชนมีความวิตกกังวลจากสถานการณ์ดังกล่าว แต่คาดว่าการฟื้นตัวของการบริโภคน่าจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่าแสนล้านบาท ซึ่งน่าจะเริ่มเห็นการบริโภคฟื้นตัวเด่นขึ้นได้ในช่วงกลางไตรมาส 4 ของปีนี้
"ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ยังปรับตัวลดลง สะท้อนว่าเศรษฐกิจยังไม่ดี แต่ก็ไม่ได้ลดลงไปมากกว่าที่เราคาดไว้ เพราะเริ่มมีสัญญาณที่ดีเข้ามาที่ทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจน่าจะเริ่มฟื้นได้ในช่วงไตรมาส 4 คือการที่ประชาชนมีความหวังกับทีมเศรษฐกิจชุดใหม่" นายธนวรรธน์ กล่าว