ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการให้ความช่วยเหลือดังกล่าว อาจจะมีเงื่อนไขหรือข้อแลกเปลี่ยนว่าจะต้องให้ผู้ประกอบการ SMEs ใช้บัญชีเดียว เพราะปัจจุบันจะพบว่าผู้ประกอบการมักใช้ 2 บัญชี คือบัญชีหนึ่งทำไว้เพื่อส่งกรมสรรพากร ขณะที่อีกบัญชีหนึ่งทำไว้สำหรับเวลาต้องการขอสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ โดยในส่วนนี้กระทรวงการคลังจะประสานกับสภาวิชาชีพการบัญชี เพื่อขอให้ช่วยจัดทำมาตรฐานระบบบัญชีแบบง่ายๆ ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งจะได้ลดปัญหาจากการทำบัญชีดังเช่นที่ผ่านมา และจะช่วยให้การจัดเก็บภาษีเป็นไปได้อย่างครบถ้วน
ส่วนที่มีการเสนอแนวคิดการนิรโทษกรรมภาษีให้แก่ผู้ประกอบการนั้น นายรังสรรค์ เห็นว่า ในปัจจุบันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการวิธีนี้ เพราะขณะนี้ยังมีสภาพคล่องทางการเงิน โดยเงินคงคลังของประเทศยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับไม่มีความจำเป็นต้องหารายได้เพิ่ม แม้ว่าการเก็บรายได้ของรัฐบาลจะมีปัญหาต่ำกว่าเป้าก็ตาม
"เราเคยทำมาแล้วหลายครั้ง ก็ไม่ได้ช่วยอะไร ตอนนั้นที่ทำเพราะเราต้องการเม็ดเงิน แต่ตอนนี้ไม่จำเป็น เพราะสภาพคล่องเรามี ทั้งจากเงินคงคลังที่อยู่ในระดับสูง รายจ่ายภาครัฐก็ไม่มาก ดังนั้นจึงไม่มีความต้องการใช้เม็ดเงินมาก จึงไม่มีความจำเป็นต้องนิรโทษกรรมภาษี" ปลัดกระทรวงการคลังกล่าว
นายรังสรรค์ กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปศึกษาแนวทางการคืนภาษีให้กับผู้ประกอบการที่ส่งรถยนต์เก่าออกไปขายในต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อจะช่วยลดปริมาณรถเก่าในประเทศ รวมทั้งลดปัญหามลพิษที่เกิดจากรถยนต์เก่า ซึ่งปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้านซื้อรถยนต์เก่าจากญี่ปุ่นมากกว่าซื้อจากไทย เพราะได้ราคาถูกกว่า ซึ่งหากรัฐสามารถคืนภาษีให้กับผู้ส่งออกรถยนต์มือสองได้ก็จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้