ทั้งนี้จะสามารถเริ่มต้นก่อสร้างตอนที่ 1 และ 3 ได้ในดือนตุลาคมนี้หรือไม่นั้น จะต้องรอดูผลการออกแบบและต้นทุนโครงการในการประชุมครั้งนี้ก่อน ว่าทั้งสองฝ่ายจะเห็นชอบร่วมกันหรือไม่ ซึ่งต้นทุนการก่อสร้างยังสูงอยู่ โดยทางจีนระบุว่า ต้นทุนโครงการนั้นคำนวณโดยใช้ฐานราคาค่าก่อสร้างฐานในประเทศไทย เช่น ดัชนีราคา ราคาวัสดุก่อสร้างต่างๆ ซึ่งฝ่ายไทยจะต้องจัดหาที่ปรึกษาเข้ามาตรวจสอบต้นทุนโครงการในการประเมินราคาที่จีนเสนอมา ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ด้วย
ส่วนในรูปแบบทางการเงิน การลงทุน นั้นฝ่ายไทยจะมีที่ปรึกษาทางการเงินหารือร่วมกัน โดยหลักโครงการนี้จะร่วมทุนระหว่างไทย-จีน รูปแบบ SPV ขณะที่การก่อสร้างจะเป็นบริษัทผู้รับเหมาของไทยดำเนินการ ซึ่งจะต้องแยกรายการออกให้ชัดเจน
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการจัดหาที่ดินเพิ่มเติม แม้ว่าแนวเส้นทางหลักจะเกาะไปตามเส้นทางรถไฟ แต่จะต้องมีการจัดหาเพิ่มเติมในส่วนที่เป็นอุโมงค์และสะพาน ซึ่งจะต้องทำข้อมูลรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพิ่มเติมเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และจะต้องกำหนดจุดเพิ่มเติมและรับฟังความคิดเห็นประชาชนอีกด้วย
"เราพยายามเร่งที่สุด ซึ่งได้กำหนดว่ารายงานการศึกษาความเหมาะสมต้องเสร็จในวันที่ 31 ส.ค.58 ทางจีนได้ส่งมาแล้วแต่ขอเป็นรายงานการศึกษาเบื้องต้นดังนั้นจะต้องหารือในวันนี้ก่อนส่วนจะนำไปสู่การก่อสร้างได้หรือไม่ ก็ยังมีขั้นตอนอีก คือหากสรุปแล้ว จะต้องกำหนดวิธีการหาผู้รับเหมา ขั้นตอนในการทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม ต้องเผื่อเวลาสำหรับการดำเนินการตามขั้นตอนภายในเหล่านี้ ตอนนี้ขอสรุปรายงานการศึกษา แนวเส้นทาง การออกแบบต่างๆ ว่าจะเป็นที่ยอมรับร่วมกันก่อน จากนั้นจะเป็นการประเมินราคาที่เหมาะสม และรูปแบบทางการเงิน"นายอาคมกล่าว