พร้อมทั้งอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดภายใต้แผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมปี 2558 จำนวน 90 ล้านบาท ซึ่งจะขยายระยะเวลาดำเนินการจากเดือนกันยายน 2558 ไปถึงเดือนกรกฎาคม 2559 และอนุมัติปรับรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่วางไว้ และสอดคล้องกับแนวทางกิจกรรม แผนการใช้เงินและระยะเวลาในการปฏิบัติงานจริง ซึ่งจะสอดคล้องกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และความต้องการของตลาดอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้หารือแนวทางส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีเพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนงาน และเร่งช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี เพราะที่ผ่านมาเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน รวมถึงขาดองค์ความรู้ โดยขณะนี้ธุรกิจเอสเอ็มอีทั่วประเทศ 2.7 ล้านราย สามารถเข้าระบบได้เพียง 7 แสนราย ดังนั้นจึงต้องมีการเร่งให้เข้าสู่ระบบ โดยจะให้กระทรวงการคลังดูมาตรการภาษี แต่จะไม่มีการพูดถึงการนิรโทษกรรมทางภาษี เพราะเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ขณะที่เวทีโลกให้ความสำคัญธุรกิจเอสเอ็มอี เพราะมีส่วนต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศ
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณคณะกรรมการทุกคนที่ได้ร่วมกันทำงานด้วยความอดทนและวิริยะอุตสาหะ ส่งผลให้แผนงานโครงการต่างๆ สามารถขับเคลื่อนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้อย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลดีต่อชุมชนและท้องถิ่นทำให้มีรายได้มากขึ้น และส่งผลดีเศรษฐกิจโดยรวม