"การประกาศปรับลดราคาน้ำมันสองครั้งใหญ่ของรัฐบาล ทำให้ต้องปรับราคากลางใหม่ที่เสียเวลาเป็นเดือน ไม่เช่นนั้นจะถูกกล่าวหาว่าราชการซื้อของแพง" นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ประกาศปรับโครงสร้างราคาน้ำมันครั้งใหญ่สองครั้ง คือ เดือน ธ.ค.57 และเดือน ส.ค.58 ที่มีผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับลดลง
โดยในปีงบประมาณ 58 มีงบลงทุนทั้งสิ้น 4.49 แสนล้านบาท และตั้งเป้าเบิกจ่ายไว้ที่ 87% แต่นับถึงสิ้นเดือน ส.ค.58 สามารถเบิกจ่ายไปได้เพียง 58.6% และคาดว่าจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 58 ในเดือน ก.ย.58 จะสามารถเบิกจ่ายได้ราว 65% หรือประมาณ 2.9 แสนล้านบาท
ปีนี้รัฐบาลมีแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ด้วยการออก พ.ร.บ.โอนงบประมาณฯ เพื่อโอนงบลงทุนที่เบิกจ่ายไม่ทันจำนวน 7.9 พันล้านบาท ไปเป็นงบกลางฯ และในปีงบประมาณ 59 หากส่วนราชการยังไม่สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ทันกำหนดวันที่ 15 ก.ค.59 รัฐบาลก็จะนำ พ.ร.บ.โอนงบประมาณฯ มาใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาอีกเช่นเดิม
"การออก พ.ร.บ.โอนงบฯ เป็นแนวทางที่จะช่วยกระตุ้นให้ส่วนราชการมีวินัยการคลังและเร่งรัดการเบิกจ่ายมากขึ้น" นายมนัส กล่าว
สำหรับภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณปี 58 คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 96% หรือราว 2.47 ล้านล้านบาท จากวงเงินงบประมาณทั้งหมด 2.57 ล้านล้านบาท
ขณะที่ในปีงบประมาณ 59 ตั้งเป้าหมายภาพรวมการเบิกจ่ายไว้ที่ 96% แต่ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 59 รัฐบาลกำหนดให้เร่งรัดการเบิกจ่ายให้ได้ถึง 30% ขณะที่การเบิกจ่ายงบประจำตั้งเป้าหมายไว้ที่ 98% และการเบิกจ่ายงบลงทุนตั้งเป้าหมายไว้ที่ 87%