ทั้งนี้ แผนพัฒนาฯ ฉบับดังกล่าวจะมุ่งเน้นให้ไทยเป็นประเทศที่หลุดพ้นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง ลดความยากจนและความเหลื่อมล้ำ พร้อมทั้งจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ของประเทศ รวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตมุ่งเน้นด้านการศึกษาและสังคม นอกจากนี้ ในอนาคตโครงสร้างประชากรของประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมสูงวัย ซึ่งต้องเตรียมแผนรองรับ
นายอาคม กล่าวว่า หากใน 10 ปีข้างหน้าเศรษฐกิจไทยเติบโตเฉลี่ย 5% ทุกปี ประเทศไทยจะหลุดพ้นจากประเทศรายได้ปานกลาง โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยยังมีโอกาสจะกลับไปเติบโตในระดับ 5% ได้ แต่ไทยจะต้องปรับปรุงประสิทธิภาพแรงงานทั้งทักษะและฝีมือแรงงานและเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งภายใน 2 ปีนี้กระทรวงคมนาคมจะอนุมัติโครงการคมนาคมขนส่งประมาณ 18-19 โครงการ ซึ่งจะมีเม็ดอัดฉีดสู่ระบบเศรษฐกิจต่อเนื่อง 8 ปีข้างหน้าถึง 1.6 ล้านล้านบาท เชื่อว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันยอมรับว่าภาคการส่งออกปีนี้น่าจะติดลบ แต่ปี 59 ยังต้องดูปัจจัยภายนอกอย่างเศรษฐกิจโลก ซึ่งคาดว่าจะฟื้นตัวและเป็นแรงหนุนให้การส่งออกของไทยกลับมาเป็นบวก แต่หากจะให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ(GDP)เติบโตได้ถึง 5% ภาคการส่งออกเฉลี่ยแต่ละปีต้องเติบโตไม่น้อยกว่า 10-15% อย่างไรก็ตาม ภาคการท่องเที่ยวยังเป็นปัจจัยหลักที่จะสร้างรายได้สนับสนุนให้เศรษฐกิจ โดยเฉพาะเมื่อโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะเข้าสู่ชุมชนจะทำให้การท่องเที่ยวคึกคักมากขึ้น
ส่วนภาคการเกษตรที่เป็นปัญหาราคาตกต่ำนั้น ถ้ามีการบริหารอุปสงค์และอุปทานอย่างดีภาคการเกษตรก็ยังสามารถเติบโตได้ เพราะในอนาคตสินค้าส่งออกยังเน้นสินค้าเกษตร อาหาร และสินค้าแปรรูป โดยจำเป็นต้องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช่วยเหลือ