(เพิ่มเติม) รมว.คลัง-ผู้ว่าธปท.คาดเฟดขึ้นดบ.แบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่กระทบเงินทุนเคลื่อนย้าย เหตุตลาดรับรู้แล้ว

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 18, 2015 13:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ระบุว่า การที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยมองว่าน่าจะมีผลดีกับทุกประเทศทั่วโลก ไม่ใช่แค่ไทยเท่านั้น โดยจะเป็นผลดีกับประเทศที่กำลังพัฒนา เนื่องจากหลายฝ่ายมีความเป็นห่วงว่า หากเฟดมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจส่งผลให้ผลตอบแทนของค่าเงินดอลลาร์สูงขึ้นจะทำให้เกิดภาวะเงินทุนไหลออก

นอกจากนี้มองว่า การที่เฟด ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เองที่ฟื้นตัวดีขึ้น ไม่ได้มีปัญหาเหมือนที่ผ่านมา แต่อาจจะยังมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวอยู่ โดยเฉพาะจีน ดังนั้นแนวทางการในการพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจึงอาจชะลอไปก่อน แต่ท้ายที่สุดเชื่อว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอน ซึ่งจะเป็นการปรับแบบค่อยเป็นค่อยไป

ในกรณีที่หากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย จะส่งผลให้เกิดภาวะเงินไหลกลับหรือไม่นั้น รมว. คลัง ระบุว่า ส่วนใหญ่ตลาดจะมีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง นักลงทุนจะไม่ตื่นตกใจ ก็เหมือนการปรับขึ้นดอกเบี้ยองเฟด ที่มีการพูดกันมาหลายเดือนแล้ว ตลาดรับรู้และมีการปรับตัวแล้ว จึงไม่น่ามีอะไรกังวล

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า FED คงพิจารณาจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศแล้ว โดยปัจจัยภายในคือพิจารณาจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯเอง ว่าถึงจุดเหมาะสมที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ ส่วนปัจจัยภายนอกนั้น เชื่อว่า FED คงมองว่าตอนนี้ตลาดการเงินโลกค่อนข้างอ่อนไหว จึงทำให้ตัดสินใจคงดอกเบี้ยไว้ก่อน ซึ่งเป็นการตัดสินใจจากการประเมินสถานการณ์ของหลายๆ ประเทศ ไม่ใช่แค่ประเทศใดประเทศหนึ่ง

ส่วนการที่ FED คงอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มความผันผวนให้ตลาดการเงินหรือไม่ และเม็ดเงินที่คาดว่าจะไหลออกจะกลับมาเป็นไหลเข้าหรือไม่นั้น ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าวว่า คงไม่ส่งผลรุนแรงขนาดนั้น เพราะโจทย์เดิมก็ยังคงอยู่ โจทย์ไม่ได้กลับทิศหรือมีโจทย์ใหม่ เพราะแนวโน้มคือ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย เพียงแต่ว่าจะปรับขึ้นในช่วงเวลาใดเท่านั้น

“โจทย์มันยังค้างอยู่ โจทย์ไม่ได้กลับทิศ โจทย์ยังไปทิศนั้น(ขึ้นดอกเบี้ย) แต่ว่าเมื่อไรเท่านั้น เขาคงไม่ได้ทำ QE4 เขาคงคิดว่าจะเริ่มปรับดอกเบี้ยเมื่อไร" ผู้ว่าฯธปท. กล่าว

ส่วนจะเป็นการเปิดพื้นที่นโยบายการเงินของไทยมากขึ้นหรือไม่นั้น นายประสาร กล่าวว่า ยังไม่คิดถึงขนาดนั้น เพราะโจทย์เดิมยังค้างอยู่ คงต้องติดตามความไม่แน่นอนยังค้างอยู่ในตลาด

นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การตัดสินใจคงดอกเบี้ยของเฟดดังกล่าวเป็นสิ่งที่นักลงทุนในตลาดการเงินโลกส่วนใหญ่คาดหมายไว้แล้ว

สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตลาดการเงินมิได้รุนแรงและเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ กล่าวคือ ค่าเงินดอลลาร์ สรอ. ปรับอ่อนค่าลงบ้างประมาณ 1%เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้นปรับลดลงเล็กน้อยจากการกลับเข้ามาซื้อของนักลงทุน ส่วนตลาดหุ้น Dow Jones ของสหรัฐฯ ผันผวนบ้าง แม้ในช่วงแรกจะตอบรับเป็นบวก แต่ปิดตลาดปรับลดลง เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงมากขึ้น

ส่วนผลต่อตลาดในภูมิภาค ในช่วงเช้าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยค่าเงินและดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคปรับตัวในลักษณะผสม เช่นเดียวกับค่าเงินบาทที่เคลื่อนไหวในกรอบ ล่าสุดเงินบาทอยู่ที่ระดับ 35.84 บาท (เวลา 9.00 น.)ปรับอ่อนค่าลงเล็กน้อย 0.3%เทียบกับปิดตลาดวานนี้

ทั้งนี้ แม้ช่วงเวลาที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะล่าช้าออกไปบ้าง แต่ความผันผวนในตลาดการเงินโลกน่าจะคงอยู่ต่อไปจากความเสี่ยงของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน

ดังนั้น ธปท. จะติดตามสถานการณ์ในตลาดการเงินโลกอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันภาคเอกชนก็ควรจะระมัดระวังและเตรียมความพร้อม เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนยังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนได้ทั้ง 2 ทิศทาง โดยอาจพิจารณาใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อลดทอนผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ