อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาส 4/58 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจประกัน เชื่อว่าจะส่งผลต่อบวกต่อการเติบโตดังกล่าวได้
ภาพรวมของอุตสาหกรรมประกันชีวิตจากนี้จะเป็นลักษณะของการออกโปรดักส์ที่ตรงกับชีวิตประจำวันของลูกค้ามากขึ้น หรือกลยุทธ์ที่เรียกว่า "คอนซูเมอร์ เซ็นทริค" (Consumer Centric) ขณะที่การกำหนดเบี้ยประกันก็จะเป็นไปตามพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ หรือการใช้ชีวิตประจำวันด้วย เช่น ลูกค้ามีการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี มีการออกกำลังกายหรือดูแลสุขภาพอย่งต่อเนื่อง การกำหนดเบี้ยประกันจะต้องลดลงตามสุขภาพที่ดีขึ้น เป็นต้น ประกอบกับในเรื่องของการบริการให้กับลูกค้าที่จะมีมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องของข้อมูลประกันชีวิตต่างๆ และอีกหนึ่งการทำกลยุทธ์ที่เห็นภาพอย่างชัดเจน คือ การทำประกันชีวิตที่จะควบคู่ไปกับการลงทุน หรือการทำประกันเพื่อสะสมทรัพย์ จากนี้ก็จะเห็นโปรดักส์ออกมามากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นโจทย์ของบริษัทประกันทุกประกันที่จะต้องศึกษาพฤติกรรมกลุ่มลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้นให้ได้
ในส่วนธุรกิจประกันภัยก็มีการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ จากเดิมเน้นขายผลิตภัณฑ์ระยะสั้น 3-4 ปี เป็นการขายในระยะยาวประมาณ 10 ปีขึ้นไปแทน เพื่อให้การชำระเบี้ยประกันมีความยืดหยุ่นขึ้น
"ภาพของประกันชีวิตในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยให้ความสนใจที่จะลงทุน แต่จากนี้ไปเชื่อว่าการลงทุนในประกันชีวิตจะมีมากขึ้น จากพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่เปลี่ยนไป จะเห็นได้จากการใช้สิ่งของที่ประเมินว่าเรามีการออกกำลังกายวันนี้อย่างไร ซึ่งบริษัทประกันต่างๆก็จะต้องหันกลับมาดูผลิตภัณฑ์ของตัวเองมากขึ้น หรือต้องใส่หมวกลูกค้าแล้วมองกลับเข้ามา ส่วนตัวคิดว่านี่คือความท้าทายสำหรับธุรกิจประกัน"นายสาระ กล่าว