โดยสาระสำคัญของการแก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้ จะลดระยะเวลากระบวนการพิจารณาการขอจดเครื่องหมายการค้าให้เร็วขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ยื่นคำขอ, เอาผิดกับผู้ที่นำบรรจุภัณฑ์ อย่างขวดแชมพูสระผม ครีมนวดผม ซอส ซีอิ๊ว น้ำปลา เป็นต้น ที่ยังมีเครื่องหมายการค้าชัดเจน ไปใส่สินค้าปลอม เช่น นำขวดแชมพูสระผมยี่ห้อหนึ่งไปบรรจุสินค้าปลอมที่ผลิตขึ้นเอง แล้วนำไปหลอกขาย ทำให้ผู้ซื้อสับสน และเข้าใจผิดว่าเป็นสินค้ายี่ห้อนั้นๆ และการขยายความคุ้มครองเครื่องหมายการค้าที่เป็นเสียง จากปัจจุบันที่ไทยจะคุ้มครองเฉพาะเครื่องหมายการค้าที่เป็นภาพ สี ตัวอักษร ฯลฯ
สำหรับคุณลักษณะของเสียงที่จะยื่นขอจดเครื่องหมายการค้าได้ กำหนดว่าต้องเป็นเสียงที่ทำขึ้น ไม่ใช่เสียงจากธรรมชาติ และผู้ยื่นขอจดต้องใช้เสียงนั้นมานานจนคนติด เช่น เสียงไอศกรีมวอลล์ เสียงเปิดประตูของร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น เสียงสิงโตคำรามของค่ายหนังเมโทร โกลด์วิน เมเยอร์ (เอ็มจีเอ็ม) ในฮอลลีวู้ด เป็นต้น แต่ไม่ใช่เสียงจากธรรมชาติ เช่น คลื่น ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังได้แก้ไขเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรับคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า การยื่นคำขอจด เป็นต้น เพื่อรองรับการที่ไทยจะเข้าเป็นสมาชิกพิธีสารมาดริด ซึ่งหากเป็นสมาชิกแล้ว ผู้ยื่นขอจดเครื่องหมายการค้าสามารถยื่นขอจดที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้เพียงที่เดียว แต่สามารถขอรับความคุ้มครองได้ในหลายประเทศที่เป็นสมาชิกพีสารฯ จากเดิมที่หากต้องการความคุ้มครองที่ประเทศใด ต้องจดที่ประเทศนั้นๆ
"ก่อนหน้านี้ กรมฯแก้ไขกฎหมายเพื่อขยายความคุ้มครองไปถึงเครื่องหมายการค้าที่เป็นเสียง และกลิ่น เพราะหลายประเทศคุ้มครองกันแล้ว แต่สุดท้ายต้องถอนกลิ่นออก เพราะทั่วโลกยื่นขอจดกลิ่นน้อย อีกทั้งมีข้อขัดแย้งจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องในประเทศ โดยเฉพาะประเด็นการตรวจสอบที่ยุ่งยาก ซับซ้อน และเอาไปโยงกับสิทธิบัตร ตอนนี้เหลือแต่เสียงเท่านั้น"