"สมคิด"เผยรัฐวางแนวทางให้รสก.เข้มแข็ง ปลอดการเมือง,หวังมีกำไรเพิ่มขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 22, 2015 19:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี คาดหวังรัฐวิสาหกิจทุกแห่งมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5-7% ต่อปี เพื่อเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศ พร้อมให้กำลังใจรัฐวิสาหกิจอย่างบมจ.การบินไทย(THAI) ในการฟื้นฟูธุรกิจให้ดีขึ้น ขณะที่วางแนวทางให้รัฐวิสาหกิจมีความเข้มแข็ง ปลอดการเมืองให้มากที่สุด

นายสมคิด กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้เป็นประธาน มอบรางวัลรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นประจำปี 2558 ซึ่งมีรัฐวิสาหกิจ 11 หน่วยงานได้รับรางวัล อาทิ รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตกรและสหกรณ์การเกษตร รางวัลบริหารจัดการองค์กรดีเด่น ได้แก่ ธนาคารออมสิน รางวัลนวัตกรรมดีเด่น ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบมจ.ปตท.(PTT) เป็นต้น

นายสมคิด กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่สบายเพราะเป็นไข้หวัด เนื่องจากทำงานหนัก และไม่ได้พักผ่อน และต้องเตรียมตัวไปประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ ในวันพรุ่งนี้ด้วย จึงมอบหมายให้ตนเองมาเป็นประธานในวันนี้ พร้อมฝากให้กำลังใจรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง ขณะเดียวกันในสายตาตนเอง เห็นว่ารัฐวิสาหกิจ คือกำลังหลักในการพัฒนาประเทศ เพราะรัฐวิสาหกิจมีทรัพย์สินเกือบ 1 เท่าของจีดีพี หรือเทียบเท่า 2 เท่าของงบประมาณแผ่นดิน ถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่มีผลประกอบการ 7.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีความคาดหวังอยากจะเห็นรัฐวิสาหกิจทุกแห่งมีกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 5-7% ต่อปี และไม่อยากเห็นการขาดทุนของแต่ละแห่ง โดยเฉพาะการบินไทย ก็พร้อมให้กำลังใจการฟื้นฟูให้ได้

ขณะที่รัฐบาลกำหนดนโยบายให้รัฐวิสาหกิจ เดินตามยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลวางไว้ โดยขอให้แต่ละรัฐวิสาหกิจมีความโปร่งใส มีการบริหารจัดการที่ดี ทั้งการคัดเลือกผู้บริหาร เป็นต้น และมีให้ระบบการตรวจสอบ เพื่อไม่ให้การเมืองเข้าแทรกแซง หรือควบคุม เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีการเลือกตั้ง นโยบายด้านรัฐวิสาหกิจก็ไม่มีความต่อเนื่อง ทำให้รัฐวิสาหกิจอ่อนแอลง ดังนั้นนายกรัฐมนตรีจึงมีแนวทางให้รัฐวิสาหกิจเข้มแข็ง ปลอดการเมืองให้มากที่สุด

แต่สิ่งสำคัญ มองว่าคนในองค์กรต้องมีสปิริต และต้องมีผู้นำที่ดี โดดเด่น ให้องค์กรขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ โดยรัฐบาลมีความหวังในเรื่องของการคัดสรรคนเพื่อมานำองค์กร ให้มีความก้าวหน้า รวมทั้งรัฐวิสาหกิจ ต้องพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ให้เกิดการแข่งขัน มีมูลค่าเพิ่ม ดำเนินงานคล้ายกับภาคเอกชน ที่หวังผลกำไร ขณะที่การมีนวัตกรรมใหม่ๆ จะทำให้เกิดการแข่งขันด้านการค้ามากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ