ส่วนการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ลดลงร้อยละ 7.7 คิดเป็น 573 พันตัน/เดือน เนื่องจากความต้องการใช้ที่ลดลงของภาคขนส่ง ภาคครัวเรือนและการใช้ในอุตสาหกรรม ปิโตรเคมี ขณะที่ราคาน้ำมันปรับลดลง ทำให้ผู้ใช้ LPG บางส่วนหันไปใช้น้ำมันแทน ส่วนภาคครัวเรือนลดลงร้อยละ 4.8 โดยยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มมีมาตรการเข้มงวดปราบปรามการลักลอบจำหน่าย LPG ผิดประเภท ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมคาดว่า จะมีการใช้เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ด้านการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) พบว่าเริ่มชะลอตัวและมีแนวโน้มลดลงจากปีก่อนร้อยละ 1.3
สำหรับสถานการณ์การใช้พลังงาน 8 เดือนแรกปี 58 พบว่าสัดส่วนการใช้พลังงานของประเทศไทยแบ่งเป็นน้ำมันร้อยละ 29 ก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 ถ่านหินร้อยละ 13 ซึ่งใช้พลังงานรวมทั้งประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 ซึ่งการผลิตในประเทศลดลง ร้อยละ 1.1 ส่งผลให้นำเข้าพลังงานสูงขึ้นร้อยละ 8.6
ในส่วนสถานการณ์ไฟฟ้านั้น พบว่าค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ(เอฟที) ที่ลดลงตามแนวโน้มราคาเชื้อเพลิงในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า ทำให้การใช้ไฟฟ้าช่วง 8 เดือนแรกของปี 2558 คาดว่าจะมีการใช้ไฟฟ้าประมาณ 116,350 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัดในช่วงฤดูร้อนและมีฝนแล้งมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในเกือบทุกสาขา ยกเว้นภาคเกษตรกรรมที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี้มีแนวโน้มขยายตัวในช่วงร้อยละ 2.7-3.2 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐที่เร่งรัดให้ดำเนินการตามแผน ในขณะที่ราคาน้ำมันและอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำก็จะช่วยเพิ่มอำนาจซื้อที่แท้จริงของประชาชน แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนและอียู ทั้งนี้ สศช. คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปี 2558 มีแนวโน้มอยู่ในช่วง 40-45 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล