ในการประชุมครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จึงยกประเด็นด้านปัญหาอุปสรรคการค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านมาเป็นประเด็นหลักในการหารือ โดยเฉพาะด้านการอำนวยความสะดวก การพัฒนาด่านชายแดนไทย - มาเลเซีย เพื่อผลักดันการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยมุ่งสู่เป้าหมายที่ 1.5 ล้านล้านบาท ภายในปี 2558 ซึ่งขณะนี้มีสัดส่วนของมูลค่าการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนต่อเป้าหมายอยู่ที่ร้อยละ 59.6
สำหรับการลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าชายแดนด้านไทย - มาเลเซียนั้น รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงฯ ภายใต้การดำเนินงานของคณะกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน กำหนดแผนงานลงพื้นที่จังหวัดสงขลา พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งจากการรวบรวมประเด็นปัญหาพบว่า บางปัญหาอาจจะร่วมกันพิจารณาเพื่อแก้ไขได้ในระยะสั้น อาทิ เรื่องการจัดตั้ง Duty Free Zone เรื่องการเพิ่มจุดในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ด่านสะเดา และการขยายระยะเวลาเปิดด่าน เป็นต้น ส่วนโครงการที่เป็นความร่วมมือระหว่างไทยกับมาเลเซียก็จะเร่งดำเนินการเช่นกัน ได้แก่ โครงการจัดตั้ง Halal Park ร่วมกัน
อย่างไรก็ดี การดำเนินงานจะไม่สามารถบรรลุผลสำเร็จได้ หากปราศจากความร่วมมือและการบูรณาการการทำงานของทุกฝ่ายทุกหน่วยงาน ดังนั้นจึงเป็นโอกาสอันดีและก้าวสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของประเทศไทยเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (ASEAN Community: AC) ที่จะบังเกิดผลสมบูรณ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป ในการดำเนินงานพัฒนายกระดับการค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้คณะกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเชื่อมโยงประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านที่จะก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียนพร้อมกันโดยจะไม่ทอดทิ้งใครไว้เบื้องหลัง อันจะนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของภูมิภาคในระยะยาว