อีกทั้งยังได้ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในปีมหามงคลต่อเนื่องในปี พ.ศ.2558 - 2560 โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 88 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2558 ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์ครบ 70 ปี ในปี 2559 และทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 90 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2560 ต่อมาเป็นวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2559 อีกวโรกาสที่เพิ่งผ่านไป คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ในปี 2558 และในวโรกาสที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเจริญพระชันษาครบ 60 พรรษา ในปี 2560
สำหรับเงื่อนไขของเงินฝากประเภทนี้ คือ เปิดให้บุคคลธรรมดาอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป ฝากเงินเฉพาะบุคคล 1 คน 1 บัญชี เท่านั้น โดยได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 1% ต่อปี คำนวณดอกเบี้ยจากยอดคงเหลือเป็นรายวัน และลงรับดอกเบี้ยทุกวันที่ 30 มิถุนายน และ 31 ธันวาคม ของทุกปี ฝากเงินขั้นต่ำ 100 บาท ฝากเพิ่มได้ครั้งละไม่ต่ำกว่า 100 บาท ถอนเงินกี่ครั้งก็ได้ ครั้งละเท่าใดก็ได้ โดยเปิดรับฝากตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
"ธนาคารออมสินเชื่อว่า ปีมหามงคลนี้จะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจปวงชนชาวไทย ควบคู่กับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างพอเพียงตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะทำให้คนไทยน้อมนำแนวพระราชดำริ มาปรับใช้ในการออมเงิน และออมทุกๆ สิ่ง ด้วยจิตใจที่มีศีลมีธรรม ยึดมั่นในหลักคำสอนของศาสนา เพราะความสุข ความมั่นคง เริ่มต้นด้วยการออม โดยที่ธนาคารออมสินจะส่งเสริมให้ดำเนินควบคู่กันไป"ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารออมสินได้กำหนดเงื่อนไขพิเศษเฉพาะสำหรับเงินฝากประเภทนี้ด้วยการ ให้ผู้ฝากลงนามในคำปฏิญาณว่า "ข้าพเจ้าขอตั้งปณิธานว่า จะดำรงตนเป็นคนดี มีวินัย ห่างไกลอบายมุข รู้จักหา รู้จักออม รู้จักคบคนดี รู้จักใช้เงินอย่างมีเหตุผล" สอดคล้องกับการที่ธนาคารฯ มุ่งมั่นนำองค์กรไปสู่ SE หรือ Social Enterprise ซึ่งอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาสู่ความยั่งยืน (Sustainable Development) ออมสังคม ออมเศรษฐกิจ และออมสิ่งแวดล้อม เนื่องจากธนาคารออมสินเป็นสถาบันการเงินที่ตอบแทนสังคมมากที่สุดในประเทศไทย จากนี้ไปธนาคารฯ จะทำให้เห็นว่าจะเป็นธนาคารเพื่อสังคมอย่างไร ด้วยแนวคิด "ออมสินสร้างโลกสีชมพู"