ทั้งนี้ เห็นว่าเรื่องการส่งออกยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะยังมีปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบทั้งแง่บวกและแง่ลบ โดยปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้า มาจากภาพเศรษฐกิจโลกและตลาดคู่ค้าหลักที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อในตลาดโลก ขณะที่ปัจจัยบวก คือ มาตรการที่ภาครัฐออกมาจะช่วยในทางอ้อมได้บ้าง รวมทั้งสถานการณ์ของประเทศคู่ค้าสำคัญที่เป็นบวก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV คือ กัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม รวมทั้งประเทศจีน
"ในส่วนของมาตรการที่ภาครัฐออกมาทั้งหมดนั้น จะเป็นมาตรการระยะสั้นที่เข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs และผู้มีรายได้น้อย ส่วนมาตรการระยะกลางและระยะยาวนั้นเริ่มเดินเครื่องไปบ้างแล้ว จากการเบิกจ่ายเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เริ่มทำได้อย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 2 ปีงบ 58 เบิกจ่ายไปแล้ว 6 พันล้านบาท ไตรมาส 3 เบิกจ่ายแล้ว 8 พันล้านบาท ส่วนไตรมาส 4 ช่วง 2 เดือนแรก เบิกจ่ายแล้ว 9 พันล้านบาท ถือเป็นทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าปัจจัยนี้จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะกลางและระยะยาวได้" ผอ.สศค.กล่าว
พร้อมมองว่า ภาคการท่องเที่ยวจะยังคงเป็นพระเอกในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยรายได้จากการท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.4% ทำให้คาดว่าจนถึงสิ้นปี รายได้จากการท่องเที่ยวจะได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1.4 ล้านล้านบาท ทั้งนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยตั้งแต่ 1 ม.ค.-17 ก.ย.58 มีจำนวน 21.16 ล้านคน เติบโต 28.5%
โดยในเดือน ส.ค.58 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมีจำนวนทั้งสิ้น 2.61 ล้านคน ขยายตัว25.1% และเมื่อหักผลทางฤดูกาลออกพบว่าหดตัว 6.0% ต่อเดือน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค.58 ทั้งนี้ พบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางผ่านด่านสุวรรณภูมิ ซึ่งคิดเป็น 53.5% ของด่านทั้งหมด โดยช่วงวันที่ 1-17 ส.ค.58 นักท่องเที่ยวต่างประเทศมีอัตราการขยายตัว 32.9% แต่หลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดพบว่าอัตราการขยายตัวลดลงมาอยู่ที่ 7.7%