ธปท. แนะจับตาผลกระทบทางการค้าในระยะต่อไป หลัง 12 ปท.บรรลุข้อตกลง TPP

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 6, 2015 14:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการลงนามของกลุ่มประเทศหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ของ 12 ประเทศ เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา (ประกอบด้วยประเทศ ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ สหรัฐและเวียดนาม)ว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ แต่ละประเทศต้องดำเนินการภายใน เพื่อขออนุมัติจากสภาของแต่ละประเทศก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ ทำให้ยังคงต้องติดตามผลกระทบต่อการค้าโดยรวมและเศรษฐกิจโลกในระยะปานกลางและระยะยาวต่อไปอย่างใกล้ชิด

สำหรับประเด็นของประเทศเวียดนาม คาดว่าการเข้าร่วมในความตกลงดังกล่าวจะส่งผลให้ได้รับประโยชน์ในเรื่องการเพิ่มปริมาณการค้าการลงทุน เนื่องจากประเทศเวียดนามยังไม่มีข้อตกลงทางการค้าเสรี หรือ FTA กับกลุ่มประเทศ TPP มาก่อน ในขณะที่ประเทศไทยได้มีข้อตกลง FTA กับกลุ่มประเทศ TPP อยู่แล้ว ยกเว้นประเทศสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก

อย่างไรก็ตาม การที่ประเทศไทยได้รับการผ่อนผันไม่ระงับสิทธิ GSP จากสหรัฐโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2558 ถึงปี 2560 ทำให้ประเทศไทยยังสามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ในบางหมวดสินค้าได้ต่อไป ทั้งนี้ ไทยจะต้องเร่งพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ รวมทั้งการหาประโยชน์ในการเป็นห่วงโซ่การผลิตกับประเทศสมาชิก TPP เพื่อรองรับการแข่งขันที่จะเพิ่มขึ้นในระยะปานกลางต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ