ในขณะเดียวกันจะต้องเร่งลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าน้ำมัน ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจากับบมจ. ปตท. (PTT) เพื่อขอลดราคาลง หากทางปตท.ไม่ยอมลดราคา บขส.อาจจะต้องเปิดเสรีในการจัดซื้อน้ำมัน โดยเปิดประมูลเพื่อซื้อน้ำมันจากที่อื่นที่ราคาต่ำกว่าของปตท. โดยผลประกอบการปี 2558 มีกำไรสุทธิ 217 ล้านบาท ลดลงจากปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 342 ล้านบาท
ส่วนการย้ายสถานีขนส่งกรุงเทพ (จตุจักร) ไปยังที่แห่งใหม่นั้น บขส.ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยอยู่ระหว่างพิจารณาที่ตั้งแห่งใหม่ ซึ่งตามแผนคาดว่าการย้าย บขส.ไปยังที่ใหม่จะแล้วเสร็จในปี 2565 ดังนั้น ในระหว่างนี้จะต้องเจรจากับทางการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณาเพื่อไม่ให้กระทบต่อการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อของรถไฟสายสีแดง
ด้านนายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล ประธานกรรมการ บขส. กล่าวว่า ปัจจุบันที่ปตท.ขายน้ำมันให้บขส.ในราคาต่ำกว่าหน้าปั๊ม 1 บาทต่อลิตรเท่านั้น ซึ่งบขส.เสนอขอให้ปตท.ลดลงจากราคาหน้าปั๊ม 1.50-2 บาทต่อลิตร แต่ปตท.ยังไม่ยอม ซึ่งในขณะนี้น้ำมันดีเซลในประเทศมีจำนวนมาก โรงกลั่นต้องส่งออกในราคาต่ำกว่าหน้าปั๊ม 2.50-3 บาทต่อลิตร จึงมองว่า หากบขส.ซื้อจากรายอื่นจะได้ต่ำกว่าที่ปตท.ขาย โดยปัจจุบัน บขส.ใช้น้ำมันปีละประมาณ 40 ล้านลิตร คิดเป็นเงินเกือบ 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนถึง 25 % ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดหากประหยัดลง1 บาทต่อลิตรเท่ากับลดรายจ่ายได้ถึงปีละ 40 ล้านบาท
“ตามหลักระเบียบรัฐวิสาหกิจกรณีซื้อน้ำมันเกิน 10,000 ลิตรจะต้องซื้อจากปตท.ซึ่งล่าสุด มติคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ ให้กระทรวงพลังงานหารือกระทรวงการคลังเพื่อแก้ไขระเบียบดังกล่าว ซึ่งได้เริ่มที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) แล้วที่อนุมัติให้ซื้อน้ำมันจากบริษัทใดก็ได้ ส่วนรัฐวิสาหกิจอื่นๆ คลังอยู่ระหว่างการพิจารณา “
ส่วนการย้าย สถานี บขส.นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาพื้นที่ 5 จุด คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติโครงการได้ภายในปลายปี 2558 นี้ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี จะเร่งแผนงานเพื่อให้แล้วเสร็จและย้ายออกจากที่เดิมในปี 2563 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะใช้เงินสดหมุนเวียนที่มีประมาณ 3,000 ล้านบาทมาลงทุน