นายคณิต ลิขิตวิทยาวุฒิ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ กนป. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนป.ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานเห็นชอบตามข้อเสนอการแก้ไขปัญหาราคาน้ำปาล์มตกต่ำตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้มีการปรับประกาศราคาแนะนำในการรับซื้อผลผลิตปาล์มให้สอดคล้องกับภาระตลาดที่ปรับสูงขึ้น โดยกำหนดให้ราคาผลปาล์มดิบ 17% ที่ 3.50 บาท/กก. รวมถึงจะเร่งให้โรงไฟฟ้ากระบี่เข้ารับซื้อน้ำมันปาล์มเพื่อผลิตไฟฟ้าให้มากขึ้น โดยขอให้รับซื้อกว่าเดือนละ 1 หมื่นตัน เพื่อดึงน้ำมันปาล์มออกจากตลาดเพื่อให้ราคาขยับตัวสูงขึ้นตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็น
ส่วนการช่วยเหลือผู้ประกอบการปาล์มน้ำมันนั้น ที่ประชุมฯ มีมติให้กระทรวงอุตสาหกรรมขับเคลื่อนปฏิบัติการจัดสรรเงินทุนให้ผู้ประกอบการโรงสกัดน้ำมันปาล์มโรงบีจำนวน 60 แห่ง และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อปรับปรุงการสกัดน้ำมันปาล์มให้มีคุณภาพน้ำมันดีขึ้น
ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบให้เปิดตลาดน้ำมันปาล์มตามกรอบการค้าระหว่างประเทศในปี 2559 โดยให้องค์การคลังสินค้า(อคส.)เป็นผู้จัดการ ส่วนโรงงานสกัดเป็นผู้ดำเนินการในส่วน พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ขณะนี้ดำเนินการยกร่างแล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะเปิดทำประชาพิจารณ์ใน 5 จังหวัด คาดว่าอย่างช้าที่สุดจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.นี้ แต่ยืนยันจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการทำงานแก้ไขการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มผิดกฎหมาย ซึ่งประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมศุลกากร และตัวแทนจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อสกัดน้ำมันปาล์มนอกระบบที่จะส่งผลต่อสต๊อกน้ำมันปาล์ม
โดยข้อมูลล่าสุดวันที่ 1 ต.ค.58 ทั้งประเทศมีสต็อกน้ำมันปาล์มอยู่สูงถึง 418,000 ตัน ซึ่งที่ประชุมฯ ขอให้กระทรวงพลังงานเร่งการใช้น้ำมันปาล์มประเภทบี 10 และบี 20 ให้ได้ตามแผนพลังงานทดแทนให้เร็วขึ้น เพื่อช่วยลดสต๊อกน้ำมันปาล์มในประเทศ แม้แผนพลังงานแห่งชาติฉบับใหม่ล่าสุดจะมีการปรับลดการใช้พลังงานในส่วนของไบโอดีเซลลงจากเดิม 4.69 ล้านตัน เหลือเพียง 1.6 ล้านตันในปี 2569 แต่จะต้องขอมติ กนป.เพื่อพิจารณาต่อไป