บทวิเคราะห์ของบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ถ้อยแถลงของนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่าผู้กำหนดนโยบายคนอื่นๆ บ่งชี้ว่า จะมีการอภิปรายกันอย่างจริงจังในการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) ในวันที่ 27-28 ตุลาคมปีนี้ โดย FOMC พิจารณาว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือควรจะเลื่อนเวลาออกไปในขณะที่มีแนวโน้ม "ภาวะเงินฝืด" เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งนี้ นางลาเอล สนับสนุนให้เฟดควรจะระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเอาไว้จนกว่าจะมีความชัดเจนว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก, ปัญหาในจีน และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆในต่างประเทศ จะไม่ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐยุติการฟื้นตัว แต่ยังคงมีเจ้าหน้าที่เฟด อีกหลายท่านที่มีความเห็นแตกต่างกันเรื่องกำหนดเวลาขึ้นดอกเบี้ย
โดยนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา และนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกทั้ง 2 ท่านส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับนายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด และนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโกก รวมทั้งนายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ ได้สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เช่นกัน ถึงแม้มุมมองของเจ้าหน้าที่เฟด ยังคงรอดูสถานการณ์ต่อไป แต่ยังไม่ปิดโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
มุมมองและการแสดงความเห็นในลักษณะดังกล่าว ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรทองคำออกมา หลังจากราคาทองคำทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซน 1,148 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งต้องรอดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำว่าจะสามารถยืนในบริเวณ 1,168 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้หรือไม่ หากสามารถยืนได้ราคาทองคำจะขยับขึ้นชนแนวต้าน 1,173 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,134 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งนักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวลงต่อของราคา