รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงเวลา 1 เดือนที่เข้ามาทำงาน ได้พยายามแก้ไขปัญหาภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยเน้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ลงไปถึงผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางด้านเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งหลังจากนี้รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยลง เพราะเชื่อว่ามาตรการที่ออกมาก่อนหน้านี้เพียงพอที่จะช่วยประคับประคองให้เศรษฐกิจผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้
"หากจะมีมาตรการกระตุ้นออกมาเพิ่มเติมเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น และไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อให้จีดีพีขยายตัวผิดปกติสวนกระแสโลก หลังจากนี้จะรอดูผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาเพื่อประเมิน"นายสมคิด กล่าว
สำหรับแนวทางการปฏิรูปนั้นจะเน้น 4 ด้าน คือ 1.การปรับโครงสร้างความสมดุลการเติบโตของประเทศ จากที่ 30 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยเน้นการส่งออกเป็นหลัก โดยรัฐบาลจะใช้กลไกผ่าน กรอ.จังหวัดในการพัฒนาตั้งแต่ระดับจังหวัด การขับเคลื่อนในแนวราบผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง หรือรูปแบบประชารัฐที่เป็นความร่วมมือจากรัฐบาล ภาคเอกชน และประชาสังคม ซึ่งเชื่อว่าหากดำเนินการอย่างจริงจังจะมีเม็ดเงินลงไปในพื้นที่ช่วยสร้างความเติบโตในชนบทได้
"โครงสร้างเศรษฐกิจของเราเหมือนเป็นโปลิโอ ขาข้างหนึ่งการส่งออกแข็งแรง แต่อีกขาเกษตรกลับอ่อนแอ...สิ่งที่ตั้งใจทำจะสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นด้วยการเติบโตจากภายใน"นายสมคิด กล่าว
2.เน้นการแปรสภาพการผลิตจากสินค้าต้นทุนต่ำเน้นปริมาณเปลี่ยนมาเป็นเน้นคุณภาพ เพิ่มคุณค่าสินค้า โดยในอนาคตจะเน้นให้ผู้ประกอบการหันมาลงทุนด้านนวัตกรรมมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลจะทำงานผ่านกลไกของบีโอไอ พร้อมทั้งส่งเสริมไอเดียใหม่ๆ ที่จะเพิ่มมูลค่าทางการค้า ให้สถาบันวิจัยด้านเทคโนโลยีต่างๆ ทำงานร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรมในการขับเคลื่อนให้เกิดกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มขึ้น
3.การสร้างคลัสเตอร์ โดยรัฐบาลจะให้การส่งเสริม เพราะถือว่าจะมีส่วนช่วยดึงนักลงทุนต่างชาติ ส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับท้องถิ่น เปลี่ยนผ่านจากการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกมาเป็นภาคบริการมากขึ้น
4.การเชื่อมโยงเพื่อรองรับการเข้าสู่เออีซีในสิ้นปีนี้ ซึ่งต้องผลักดันให้ไทยเป็นฮับของอาเซียน สร้างการเชื่อมโยงเศรษฐกิจฝั่งตะวันตกกไปยังฝั่งตะวันออก เพื่อเป็นช่องทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะเพิ่มการลงทุนครั้งใหญ่ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า และต้องผลักดันให้เกิดดิจิตอลซิตี้ โดยการลงทุนในส่วนนี้จะใช้รูปแบบ PPP
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ปรับวิธีการจัดทำประมาณที่เกี่ยวข้องกับภารกิจตามนโยบายรัฐบาล ด้วยการบูรณาการมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้อาจต้องใช้เวลา 2-3 ปีจึงจะลงตัว แต่จะช่วยประหยัดงบได้มาก นอกจากนี้จะไปหารือกับผู้รับผิดชอบดูแลด้านตลาดทุน เพื่อหารือเรื่องการปรับหลักเกณฑ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสากลมากขึ้น เพื่อดึงการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา
"สิ่งต่างๆที่พูดมาทั้งหมดถือว่าเป็นความฝัน ซึ่งฝันมานานแล้ว และไม่รู้ว่าจะมีเวลาทำนานแค่ไหน แต่ผมก็ได้จี้ทีมงานเศรษฐกิจของผมทุกวัน"นานยสมคิด กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวทางการปฏิรูปดังกล่าวจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ถ้าร่วมมือกันทุกอย่างแล้วเชื่อว่าต้องดีกว่าเดิมแน่นอน และไม่ต้องไปตื่นเต้นกับการทำนายตัวเลขทางเศรษฐกิจมากนัก หากมั่นใจในสิ่งที่เรากำลังทำ
"ถ้าเราทำเต็มที่อาจจะไม่ใช่ U spape เราจะเป็นไนกี้"นายสมคิด กล่าว