กระทรวงพลังงาน ได้มอบให้กฟผ. รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพิ่ม 15,000 ตันหรือ 15 ล้านลิตร แล้ว ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) โดยให้นำน้ำมันปาล์มดิบมาใช้ทดแทนน้ำมันเตาในการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้ากระบี่ในสัดส่วนที่เหมาะสม หรือไม่เกินกว่า 23%
พร้อมทั้งขอความร่วมมือไปยังปตท. ให้รับซื้อน้ำมันปาล์มเพิ่ม 10,000 ตันหรือ 10 ล้านลิตร และบางจากฯ รับซื้อน้ำมันปาล์ม 3,500 ตันหรือ 3.5 ล้านลิตร เช่นกัน โดยปัจจุบันทั้งสองหน่วยงานยินดี และร่วมกันช่วยเหลือเกษตรกร และดำเนินตามนโยบายของรัฐบาล ในขณะเดียวก็ได้ประสานขอความร่วมมือกับบริษัทน้ำมันเอกชนรายอื่นๆ ให้เข้าร่วมในโครงการนี้เช่นกัน
"กระทรวงพลังงาน ได้ขอความร่วมมือให้ กฟผ. ,ปตท. และ บางจาก ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและข้อห่วงใยจากรองนายกรัฐมนตรี โดยคำนึงถึงมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ที่จะเข้าช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม โดยเบื้องต้น ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จากการที่ กฟผ. รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบมาผสมแทนทดแทนน้ำมันเตาที่โรงไฟฟ้ากระบี่ คาดว่าจะยังไม่ส่งผลต่อค่าไฟฟ้า เนื่องจากที่ผ่านมาราคาเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้าโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง รวมทั้งความร่วมมือจากปตท. และบางจากฯ ก็ยินดีจะช่วยเหลือเกษตรกร"นายอารีพงศ์ กล่าว
นายอารีพงศ์ กล่าวว่า การบรรเทาปัญหาปาล์มน้ำมันล้นตลาด ในระยะต่อไป กระทรวงพลังงาน จะสามารถรับซื้อสต๊อกน้ำมันปาล์มเพิ่มได้ โดยเฉพาะการนำมาผสมกับไบโอดีเซล (B100) เพิ่มขึ้น ตามสูตร B20 โดยใช้กับรถบรรทุก ที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานได้ศึกษาอยู่ ซึ่งคาดว่าจะรับซื้อผลผลิตได้เพิ่มอีก 5,000 ตันหรือประมาณ 5 ล้านลิตร