นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการแก้ปัญหาให้เกษตรกร โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตรที่มักจะมีปัญหาบ่อยๆ เช่น ข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาทุกเรื่องมีทางแก้ไข แต่การแก้ไขปัญหาทั้งหลายเหล่านี้ต้องมีข้อเท็จจริงมาคุยกันอย่างเปิดอก จะต้องเป็นการคุยที่ยอมรับฟังข้อมูลของคู่สนทนาด้วยว่ามีปัญหาอย่างไร การจะกำหนดแนวทางทางแก้ปัญหาจะเอาแต่ใจของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือเกษตรกรที่เพาะปลูกพืชชนิดนั้นอย่างเดียวคงไม่ได้ คงจะต้องดูปัญหาอื่นๆมาประกอบด้วย
"ถ้าคุยกันในลักษณะให้ข้อเท็จจริงซึ่งกันและกันรับฟังคนอื่นๆ บ้าง อย่างที่ว่า มันไม่มีปัญหาอะไรบนโลกมนุษย์ใบนี้ที่แก้ไม่ได้ แต่ขออย่างเดียวว่า อย่าเดินขบวน อย่ากดดัน เพราะว่ามันไม่ใช่แนวทางในการแก้ปัญหา"
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ฝากผู้เกี่ยวข้อง 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือ กระทรวง ทบวง กรม หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง หากมีปัญหาเรื่องกำหนดรายละเอียดราคาพืชผลตกต่ำ ไม่เฉพาะ 3 ชนิดที่กล่าวไปข้างต้น หน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต้องลงไปแก้ปัญหาโดยด่วน ต้องลงไปคุยทำความเข้าใจกับเกษตรกร เพื่อกำหนดแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน อย่ารอให้เกษตรกรเกิดความรู้สึกว่า ไม่ได้รับความสนใจในการแก้ไขปัญหา
2. เกษตรกรต้องไม่เดินขบวน เพราะการเดินขบวนกดดันรัฐบาลแบบนี้ หรือการเรียกร้องให้จ่ายเงินชดเชยอย่างเดียว ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงกับต้นเหตุของปัญหา
"ถ้าเป็นคนไทยด้วยกันก็ต้องคุยกัน ถ้าเดินขบวนก็ต้องว่ากันที่แกนนำ...นี่คือเรื่องที่ท่านนายกฯคาดหวังว่าจะไม่มีปัญหาในลักษณะแบบนี้อีก"พล.ต.สรรเสริญ กล่าว