วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวไม่มากนัก ปิดตลาดใกล้เคียงกับตอนเปิดตลาดในช่วงเช้า โดยตลาดรอติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ในวันพฤหัสที่ 22 ต.ค.นี้ ว่าจะมีการทำ QE เพิ่มหรือไม่
"วันนี้บาทผันผวนนิดเดียว ไม่ค่อยต่างจากตอนเช้ามากนัก ตลาดรอดูประชุม ECB พฤหัสนี้ว่าจะเพิ่ม QE หรือไม่ แต่มองแล้วน่าจะยังไม่ทำในรอบนี้ คงรอดูจังหวะที่เหมาะสมก่อน" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 35.35-35.50 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.51/54 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 119.53/59 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1368/1374 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.336/1339 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,418.63 เพิ่มขึ้น 1.72 จุด (+0.12%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 31,659 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติสุทธิ 516.89 ลบ.(SET+MAI)
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ในการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ(International Headquarter) หรือ IHQ ซึ่งจากเดิมจะยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับรายรับของบริษัทข้ามชาติจากกรณีการให้กู้ยืมเงินแก่บริษัทในเครือเท่านั้น มาเป็นการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับรายรับของบริษัทข้ามชาติจากการบริหารการเงินทั้งหมด
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคการเงินในไตรมาสที่ 3 ของจีนดีดตัวขึ้น 16.1% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 1.41 ล้านล้านหยวน (2.218 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงกว่าการเติบโต 6.9% ของ GDP จีน ข้อมูลตัวเลขจาก NBS ระบุว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมขั้นตติยภูมิ ซึ่งรวมถึงภาคการเงินและภาคการบริการอื่นๆ เติบโตขึ้น 8.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนผลผลิตอุตสาหกรรมขั้นปฐมภูมิขยับขึ้นเพียง 4.1% ในขณะที่ผลผลิตอุตสาหกรรมขั้นทุติยภูมิเพิ่มขึ้น 5.8%
- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ รวมทั้งการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ซึงจะมีขึ้นภายหลังการประชุม โดยตลาดคาดการณ์ว่า ECB อาจจะส่งสัญญาณเรื่องการขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมครั้งนี้
ทั้งนี้ ECB คาดว่าเศรษฐกิจในยูโรโซนจะเติบโต 1.4% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ที่ระดับ 1.5% หลังจากขยายตัว 0.9% ในปีที่แล้ว ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจจะดีดตัว 1.7% ในปีหน้า ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ระดับ 1.9%
- กระทรวงการคลังสหรัฐ แสดงมุมมองเชิงบวกต่อการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนของจีนมากขึ้น โดยได้หยิบยกกระแสของเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนความเคลื่อนไหวของจีนที่เปิดทางให้กลไกตลาดมีบทบาทมากขึ้นในการกำหนดค่าเงินหยวน
- รัฐบาลญี่ปุ่นเผยจะยกเลิกภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์การเกษตร อุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์นำเข้าอื่นๆในสัดส่วนถึง 95.1% เมื่อคิดตามมูลค่า ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก(TPP)
- นายบัมบัง โบรโจเนโกโร รมว.คลังอินโดนีเซียเปิดเผยว่า รัฐบาลอินโดนีเซียคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในประเทศจะขยายตัวเร็วขึ้นในช่วงไตรมาส 3 จะขยายตัวราว 4.8% - 5% ในเดือนก.ค.-ก.ย. เนื่องจากรัฐบาลได้เพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาและการลงทุนมากขึ้น