นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่ของ สศก.เพื่อประเมินผลหลังจากโครงการของชุมชนได้ดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงเดือนสิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา พบว่า โครงการสามารถตอบสนองความต้องการของชุมชน โดยผู้นำกลุ่ม/องค์กรเกษตรกรที่เสนอโครงการ 96% เห็นว่าโครงการมีความเหมาะสมเป็นอย่างมากกับสภาพปัญหาของชุมชนและตรงตามความต้องการที่แท้จริง ซึ่งโครงการกว่า 60% เป็นโครงการที่เกิดขึ้นใหม่ในชุมชน เช่น จัดทำแหล่งน้ำการเกษตร สร้างลานตาก และโรงเรือนเก็บผลผลิตเกษตร ส่วนอีก 23% เป็นการต่อยอดจากกิจกรรมที่ดำเนินการอยู่เดิมในชุมชน และ 17% เป็นการปรับปรุงฟื้นฟูโครงการเดิม
ทั้งนี้ พบว่า งบประมาณจำนวน 1 ล้านบาทต่อ 1 ตำบล มีความเหมาะสมระดับปานกลาง โดยชุมชนต้องการให้สนับสนุนงบให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ ความต้องการของชุมชน และจำนวนครัวเรือนเกษตร เมื่อพิจารณาผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นทางเศรษฐกิจ มีครัวเรือนเกษตรได้รับประโยชน์จากโครงการกว่า 2.87 ล้านครัวเรือน จากการมีแหล่งน้ำใช้ในฤดูแล้ง มีช่องทางหารายได้เพิ่ม มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการเกษตรเพิ่มขึ้น ต้นทุนการผลิตลดลง และผลผลิตการเกษตรมีคุณภาพเพิ่มขึ้น เกิดการจ้างงานในชุมชน จำนวน 0.87 ล้านราย โดยแรงงานในชุมชนส่วนใหญ่ 82% มีความพอใจต่อค่าจ้างที่ได้รับในระดับมาก
ด้านรายได้ พบว่า มีรายได้จากการจ้างงานของโครงการ ประมาณ 1,800 บาทต่อราย และจากการดำเนินงานโครงการก่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจระดับชุมชน 2,048 ล้านบาท หรือ 84% ของเป้าหมาย (2,442 ล้านบาท) สำหรับผลประโยชน์ทางสังคม พบว่า กระบวนการดำเนินโครงการก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและสำนึกความเป็นเจ้าของ และความสามัคคีภายในชุมชน แบบร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมจัดการดูแล ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่โครงการ ร้อยละ 92 เห็นว่าเกิดประโยชน์ในแง่ของความร่วมมือและความสามัคคีในชุมชนระดับมาก และ 88% เห็นว่าเกิดความร่วมมือกันระหว่างชุมชนและหน่วยงานภาครัฐในระดับมาก เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ข้อค้นพบสำคัญจากการประเมินผล คือ กระบวนการดำเนินงานโครงการสามารถใช้เป็นแบบอย่างให้โครงการอื่นๆ ได้ แต่ต้องสร้างความเชื่อมโยงมาตรการ/แผนงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ในระดับพื้นที่ร่วมกับชุมชน โดยเฉพาะกลไกการทำงานของ ศบกต. หากได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง จะมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนงานพัฒนาการเกษตรในระดับชุมชนได้อย่างดียิ่ง ควรส่งเสริมการรวมกลุ่ม และการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชน รวมทั้ง การเสริมสร้างองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรด้านการตลาด ในด้านปริมาณสินค้า รูปลักษณ์ บรรจุภัณฑ์ ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม ทั้งในและต่างประเทศ สุดท้าย โครงการของชุมชนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแหล่งน้ำ ควรมีการวางแผนทั้งระบบ การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ควรมีเจ้าหน้าที่เฉพาะทาง ควบคุมดูแล