(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 35.63 ยังอ่อนค่าต่อตามภูมิภาคตามแรงซื้อดอลล์-รอผล ECB วันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 22, 2015 11:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.63 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 35.56/59 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์กลับมาแข็งค่าตามแรงซื้อของนักลงทุนทั่วโลกที่กลับมาถือครองดอลลาร์แทนสินทรัพย์เสี่ยง เพื่อรอดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป(ECB) ในวันนี้ และการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรั(FED) ในสัปดาห์หน้า
"เงินบาทอ่อนค่าตามภูมิภาค เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่า against ทุกสกุล ตามแรงซื้อที่มีทั่วโลก เพื่อรอดูการประชุม ECB วันนี้ และ FOMC ในสัปดาห์หน้า" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 35.55-35.65 บาท/ดอลลาร์

"บาทยังมีทางอ่อนค่า แต่น่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ" นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.6300 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(21 ต.ค.) อยู่ที่ 1.66112% และ THAI BAHT FIX 6M(21 ต.ค.) อยู่ที่ 1.67854%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.86 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 119.96/97 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1343 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1350/1358 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารอยู่ที่ระดับ 35.4060 บาท/ดอลลาร์
  • นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยสว่า สศค.ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจในปีหน้าว่า จะสามารถขยายตัวได้มากกว่าปีนี้ ที่คาดว่าจะขายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 2.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) เนื่องจากมีแรงส่งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการเบิกจ่ายที่กำลังเร่งตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงเม็ดเงินการลงทุนของภาครัฐที่ทยอยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดย สศค.มองอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจของไทยในปีหน้า จะอยู่ที่ 3.2% ของจีดีพีใกล้เคียงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ที่ประเมินว่าจีดีพีไทยในปีหน้าว่าขยายตัว 3.2% ขณะที่ธนาคารโลกมองว่าจีดีพีของไทยในปีนี้ขยายตัวได้เพียง 2% เท่านั้น
  • ธนาคารพาณิชย์ 11 แห่ง ได้แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 58 ปรากฎว่า มีกำไรสุทธิ 46,593.26 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 8,926.81 ล้านบาท หรือ 16.07% จากไตรมาส 3 ปี 57 มีกำไรสุทธิ 55,520.07 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 58 มีกำไรสุทธิ 148,806.29 ล้านบาท ลดลง 6,161.96 ล้านบาท หรือ 3.97% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 154,968.25 ล้านบาท
  • นายจงรัก รัตนเพียร รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันการควบรวมและซื้อกิจการเป็นช่องทางการขยายธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งในรูปแบบธุรกรรมที่บริษัทไทยไปซื้อกิจการบริษัทในต่างประเทศ บริษัทต่างชาติเข้ามาซื้อกิจการของบริษัทคนไทย และบริษัทไทยซื้อกิจการในประเทศไทย “นักลงทุนไทยสนใจที่จะขยายการลงทุนในรูปแบบการซื้อ หรือควบรวมกิจการในต่างประเทศเพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ โดยกลุ่มเอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคอันดับ 1 ที่นักลงทุนไทยสนใจเข้าไปลงทุนจากปัจจัยที่ตั้งและวัฒนธรรมที่ใกล้เคียง"
  • นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าเดือนตุลาคม สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยคึกคักมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี ททท. จึงมีความเชื่อมั่นว่าในช่วง 3 เดือนสุดท้ายปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเมืองไทยไม่ต่ำกว่า 7 ล้านคน ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่นักท่องเที่ยวภายในประเทศจะเป็นอีกส่วนสำคัญในการกระตุ้นการตลาด จากเทศกาลงานประเพณี การท่องเที่ยวตามฤดูกาล รวมทั้งการเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อเสนอทางเลือกใหม่ในการท่องเที่ยวให้กับคนไทย และกระจายรายได้สู่ชุมชนในวงกว้าง ทั้งนี้อีก 3 ปีข้างหน้า ททท.วางเป้าหมายของรายได้การท่องเที่ยวไว้ที่รายได้ 3 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยว 50 ล้านคนในปี 2561
  • น.ส.อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) บริษัทที่ปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีหลายบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมเดินสายโรดโชว์โครงการในตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง อาทิ ฮ่องกง สิงคโปร์ และจีน หลังจากได้สอบถามความต้องการของกลุ่มนักลงทุน รวมไปถึงดูบทเรียนจากบริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง ที่นำโครงการคอนโดเดอะ ไลน์ ไปโรดโชว์ในเอเชียแล้วประสบความสำเร็จ
  • China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนตัวลง 0.24% แตะที่ 6.3497 หยวนต่อดอลลาร์
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ(EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ร่วงลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 45.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 86 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 47.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 10 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางยุโรป(ECB) จะมีขึ้นในวันนี้ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ร่วงลง 10.4 ดอลลาร์ หรือ 0.88% ปิดที่ระดับ 1,167.10 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป(ECB) ในวันนี้ เพื่อจับสัญญาณว่า ECB จะขยายวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) หรือไม่ โดยยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1337 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.1339 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 119.95 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 119.92 เยน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ