(เพิ่มเติม) นายกฯ สั่งหาแนวทางลดอุปสรรค-เพิ่มขีดความสามารถหนุนเอกชนลงทุนเพิ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 26, 2015 14:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวภายหลังร่วมการประชุมกับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มอุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าPrime Minister Meets CEOs (1st Series)" ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานว่า จากการพูดคุยบริษัทเหล่านี้ค่อนข้างมีความมั่นใจและพร้อมจะเพิ่มการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งเอกชนที่มาส่วนใหญ่มีฐานการผลิตใหญ่ในประเทศไทยอยู่แล้ว แต่เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเดิมๆ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบโทรคมนาคม และช่วยดูแลเรื่องภาษี ซึ่งกระทรวงการคลังกำลังหาแนวทางแก้ไขอยู่

อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ถัดไปจะทยอยเรียกกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆมา พูดคุยในลักษณะนี้เพิ่มเติม

รองนายกฯ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมเพื่อหาแนวทางในการอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจให้กับบริษัทเหล่านี้ โดยสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมเตรียมการความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ

สำหรับบริษัทที่เข้าร่วมประชุม “Prime Minister Meets CEOs (1st Series)" ประกอบด้วย Mitsubishi Motors Thailand, บริษัท Auto Alliance (Thailand) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท HGST, บริษัท Seagate (Technology) Thailand, บริษัท Mitsubishi Electric Consumer และ บริษัท Thai Samsung Electrics

พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการหารือว่า รัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงพันธมิตรทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งจะประโยชน์กับบริษัทต่างชาติที่ลงทุนในไทย นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเขตการค้าเสรีกับตุรกี ชิลี อินเดีย จีนและญี่ปุ่น ซึ่งจะบรรลุผลในไม่ช้า

นอกจากนี้ ทางกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงแรงงานได้ร่วมมือกันเร่งผลิตบุคลากรที่มีฝีมือ เพื่อป้อนแก่โรงงานและอุตสาหกรรมต่างชาติ เพื่อรองรับการขยายการลงทุนในอนาคต

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึง การเร่งซ่อมแซมเส้นทางการขนส่งที่แออัดและชำรุด เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการขนส่งสินค้าภายในประเทศและระหว่างประเทศ และเร่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ นอกจากนี้ ประเทศไทยกำลังดำเนินการปรับโครงสร้างทางภาษีทั้งระบบ โดยจะมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์ ECO Car และรถยนต์ไฟฟ้า โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอให้ผู้ประกอบการต่างชาติศึกษาสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ จากนโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ แบบ cluster และ super cluster และการเชื่อมต่อทางธุรกิจกับผู้ประกอบการรายเล็ก ตลอดจน การจัดตั้งศูนย์การวิจัยและพัฒนาในประเทศไทย

ด้านผู้บริหารกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ แสดงความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของประเทศไทย โดยอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ยังคงเป็นสินค้าส่งออกของไทยเป็นลำดับต้น และยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันบริษัทฯ ประสบอุปสรรคด้านโครงสร้างพื้นฐานไม่เอื้ออำนวยต่อการประกอบธุรกิจ นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาไฟฟ้าดับบ่อยในนิคมอุตสาหกรรม ทำให้กระทบกระเทือนต่อการผลิตและส่งมอบสินค้าส่งออก

ด้านภาษีศุลกากรนั้น ผู้บริหารกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์หวังว่ารัฐบาลจะเร่งการเจรจา FTA กับสหภาพยุโรปให้ได้โดยเร็ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลไทยไม่ได้ละเลยเรื่องการเจรจาทางการค้า ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการขยายการค้าการลงทุนในระยะยาว สำหรับการเข้าเป็นสมาชิกความตกลง TPP นั้น อยู่ระหว่างการให้กระทรวงพาณิชย์ศึกษาผลดีผลเสียในการเข้าร่วม ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาให้รอบคอบ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ