ทั้งนี้ จากยอดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง โดยเฉพาะกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล ที่มีการใช้เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ ได้ปรับตัวลดลงสอดคล้องกับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ได้ลดลงต่อเนื่องเช่นกัน โดยกลุ่มเบนซิน – แก๊สโซฮอลมีราคาเฉลี่ยลดลงจากไตรมาสสุดท้ายของปี 57 จนถึงปัจจุบันประมาณ 10-12 บาทต่อลิตร และคาดว่าราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศจะคงทรงตัวและมีโอกาสลดลงเล็กน้อย ซึ่งหากยังมียอดการใช้น้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ก็อาจจะเกิดความเสี่ยงที่ประเทศไทยต้องนำเข้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว
กระทรวงพลังงาน จึงขอความร่วมมือจากประชาชน ร่วมรณรงค์ประหยัดพลังงานและลดการใช้น้ำมันลง ด้วยวิธีการง่าย ๆ เช่น วางแผนก่อนการเดินทาง การเติมลมยางให้อยู่ในระดับพอดีไม่ให้อ่อนและแข็งเกินไป การขับรถไม่เกิน 90 กม.ต่อชั่วโมง การไม่บรรทุกสิ่งของมากเกินความจำเป็น และการตรวจเช็คเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมออย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้เกิดการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ และจะช่วยให้ประเทศประหยัดเงินได้มากยิ่งขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้รถยนต์รุ่นใหม่ ตรวจสอบเครื่องยนต์ว่าสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 หรือ E85 ได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมายังมีผู้ใช้รถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่น ยังไม่ได้ทดลองใช้แก๊สโซฮอล E20 หรือ E85 ดังกล่าว ทั้งที่เครื่องยนต์สามารถรองรับได้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ โดยเฉพาะการเพิ่มการใช้เอทานอล ซึ่งเป็นผลผลิตจากภาคเกษตรกรรมในประเทศ และลดการนำเข้าน้ำมัน เพื่อสร้างเสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจในประเทศยิ่งขึ้น นายอารีพงศ์ กล่าว