ทั้งนี้ ธปท.ระบุว่าเศรษฐกิจไตรมาส 3/58 ฟื้นตัวอย่างช้าๆ จากไตรมาสก่อน ตามการบริโภคภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้นเล็กน้อยโดยเฉพาะการใช้จ่ายในหมวดสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันและหมวดบริการ รวมทั้งการลงทุนภาคเอกชนกระเตื้องขึ้นบ้างในบางจุด โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนเพื่อทดแทนเครื่องจักรเก่าและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้านการใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แม้จะแผ่วลงบ้างหลังจากที่เร่งเบิกจ่ายไปมากในช่วงก่อนหน้า
ขณะที่ความเชื่อมั่นดีขึ้นบ้างแม้ยังอยู่ในระดับต่ำ และรายได้ภาคเกษตรไม่ได้ทรุดตัวลงไปมาก และการใช้จ่ายของรัฐบาลยังมีประสิทธิภาพ โดยในปีงบประมาณ 2558 ยอดการใช้จ่ายภาครัฐเติบโต 4.9% สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ขยายตัว 0.9%
อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าอ่อนแอลงจากไตรมาสก่อน เพราะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและอาเซียนมากขึ้น ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวหลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯ และส่งผลให้ภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวชะลอลงเช่นกัน
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราการว่างงานทรงตัว อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงติดลบ เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักแต่โดยรวมเคลื่อนไหวสอดคล้องไปกับเงินสกุลภูมิภาค ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลสูงต่อเนื่องตามการนำเข้าที่อยู่ในระดับต่ำและเงินสำรองระหว่างประเทศต่อหนี้ระยะสั้นอยู่ในเกณฑ์มั่นคง
อย่างไรก็ตาม จากการที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0-0.25% ธปท.คาดว่าจะมีแนวโน้มเงินทุนไหลเข้าในช่วงเดือนต.ค. ภายหลังจากที่ช่วง ก.ย.ที่ผ่านมายังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของเฟด ทำให้นักลงทุนต่างชาติไม่มั่นใจในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่นไทย และถอนเงินลงทุนออกไป และส่งผลให้ค่าเงินบาทในช่วงเดือนก.ย.อ่อนค่าลงเล็กน้อย
"ยอมรับว่าเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากปัจจัยต่างประเทศ เรื่องการประชุม FOMC ที่จะมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้เกิดความไม่แน่นอนของเงินทุนเคลื่อนย้าย และส่งผลต่อค่าเงินบาท และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและอาเซียน" นางรุ่ง กล่าว