ขณะเดียวกัน อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าหากจะฟ้อง กสทช. กรณีคลื่น 900 MHz ทีโอทีจะได้รับผลดีผลเสียอย่างไร โดยในเชิงธุรกิจจะกระทบต่อผลตอบแทนมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะต้องพิจารณาทั้งแง่นิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ จึงขอพิจารณาก่อนว่าวิธีใดจะเป็นแนวทางแก้ปัญหาได้ดีที่สุด
"ไม่กล้าฟันธงว่าจะฟ้อง เพราะจะมีผลกระทบต่อธุรกิจที่เรากำลังเจรจา...การพูดออกไปก่อนก็จะมีผลกระทบในวันข้างหน้า ก็กลัวเรื่องมาตรา157 (ละเลยการปฏิบัติหน้าที่) ตอนนี้ยังไม่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะพูดเรื่องนี้ พูดก่อนก็ไม่เกิดอะไร"นายมนต์ชัย กล่าว
นายมนนต์ชัย กล่าวว่า ทีโอทีจะหารายได้จาก 4 ธุรกิจ ได้แก่ 1. การหาพันธมิตรเพื่อหาโอกาสทำธุรกิจ 3G บนคลื่น 2100 MHz ซึ่งหากทำได้จะสามารถสร้างรายได้ปีละ 1 พันล้านบาท 2.ยุติข้อพิพาทเสาโทรคมนาคมกับ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) ที่มีจำนวนกว่า 1 หมื่นต้นเพื่อเช่าใช้ 3.โครงการท่อร้อยสาย(นำสายไฟฟ้าสายโทรคมนาคมลงใต้ดิน) ซึ่งทีโอทีเป็นเจ้าภาพและทำร่วมกับบมจ.กสท โทรคมนาคม และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และการได้รับสิทธิใช้คลื่น 2400 MHz ทำให้ทีโอทีสามารถลดต้นทุนไฟเบอร์ออฟติกได้กว่า 60% แต่ขณะนี้ยังไม่มีงบลงทุนในการปรับปรุงเทคโนโลยี คาดว่าอีก 2 เดือนจะได้รับงบมาปรับปรุงธุรกิจ
ด้านนายอนุชิต ธูปเหลือง ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทีโอที กล่าวว่า สหภาพฯ มีมติว่าหากฝ่ายบริหารไม่ฟ้อง กสทช. ทางสหภาพฯ จะไปฟ้องกสทช.ที่ศาลปกครอง รวมทั้งฟ้องฝ่ายบริหารและคณะกรรมการ บมจ.ทีโอที ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทีโอที ได้นัดพนักงานรวมตัวเพื่อรอฟังคำตอบจากการที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ซึ่งได้เริ่มประชุมเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.และยังไม่แล้วเสร็จในขณะนี้