“พุธนี้เรามอง กนง.คงดอกเบี้ย หลังลดมา 2 ครั้งแล้ว ตอนนี้เขาคง Wait & See เพราะเห็นภาครัฐใช้นโยบายการคลังเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ตอนนี้กนง.คงขอเป็นกองหลังไปก่อน แต่อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวที่ชัดเจนก็เป็นไปได้ที่จะเห็น กนง.ขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปีหน้า"นายเบญจรงค์ กล่าว
สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้น หลังจากที่ชะลอการปรับขึ้นในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยที่มีนัยสำคัญต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้นอยู่ที่การประกาศการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ หากมีการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่า 1.5 แสนตำแหน่ง ก็มีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยสูง
นายเบญจรงค์ มองว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือน ธ.ค.จะส่งผลให้ค่าเงินบาทสิ้นปีนี้อ่อนค่าลงแตะ 36.60-36.70 บาท/ดอลลาร์ จากประมาณการเดิม 35 บาท/ดอลลาร์ ส่วนปีหน้ามองกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 36.70-36.90 บาท/ดอลลาร์
"จากนี้ไปยังมองค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อไปจนถึงปีหน้า หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งกรอบค่าเงินบาทในปีหน้าเป็นลักษณะ SIDE WAY เพราะการขึ้นดอกเบี้ยเฟดปีหน้าจะไม่เร็ว และ เป็นการขึ้นแบบระมัดระวัง ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย แต่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบทั่วโลก คือ เศรษฐกิจจีนว่าจะมีสัญญาณดีขึ้นหรือไม่ในอนาคต"นายเบญรงค์ กล่าว