(เพิ่มเติม) BBL มองแนวโน้มเศรษฐกิจเมียนมาร์ไปได้ดี หวังดันสาขาย่างกุ้งโตติด 1 ใน 5

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 2, 2015 13:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) มั่นใจว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์จะส่งผลให้สัดส่วนสินเชื่อและสินทรัพย์ของสาขาย่างกุ้งที่เปิดให้บริการมาครบ 20 ปีขยับขึ้นมาติดอันดับติดอันดับ 1 ใน 5 ของสาขาและสำนักงานตัวแทนในต่างประเทศทั้ง 30 แห่ง หรือคิดเป็น 18-20% ภายในปี 2563 ส่วนการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศเมียนมาร์จะผ่านไปได้ด้วยดี
"ต้องดูผลเลือกตั้งก่อนว่าจะออกมาเป็นอย่างไร แต่คิดว่าคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงรุนแรง ไม่ว่าใครจะมา ต่างก็อยากให้ประเทศมีเสถียรภาพ" นายไชยฤทธิ์ กล่าว

สำหรับการให้บริการของสาขาย่างกุ้งนั้น ทางธนาคารฯ มุ่งหวังให้เป็นสถาบันการเงินที่นักธุรกิจไทยซึ่งจะเข้ามาลงทุนในเมียนมาร์นึกถึง นอกเหนือจากลูกค้าท้องถิ่นและนักลงทุนต่างชาติที่เคยเป็นลูกค้าของธนาคาร เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน ขณะเดียวกันประเทศเมียนมาร์มีศักยภาพที่จำนวนประชากรเกือบ 60 ล้านคน และยังมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การลงทุนด้านต่างๆ

"เรามุ่งหวังเป็นธนาคารในภูมิภาค หากนักธุรกิจไทยจะเข้ามาลงทุนในเมียนมาร์ก็ขอให้นึกถึงธนาคารกรุงเทพ...เรามีความพร้อมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเตรียมการมา 20 ปีแล้ว" นายไชยฤทธิ์ กล่าว

ส่วนกรณีที่ทางการเมียนมาร์ยังใช้เงินจ๊าดของตัวเองในระบบเศรษฐกิจในประเทศนั้นจะเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

นายไชยฤทธิ์ กล่าวว่า การก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)ในช่วงปลายปีนี้จะเป็นโอกาสดีสำหรับการขยายสาขาใน 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งมีเพียงประเทศบรูไนเพียงแห่งเดียวที่ธนาคารยังไม่ได้ไปเปิดให้บริการ

ขณะที่ นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ BBL กล่าวว่า หลังจากได้ใบอนุญาตเปิดสาขาเต็มรูปแบบจากธนาคารกลางเมียนมาร์และเป็นธนาคารแรกของไทยตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการขยายสินเชื่อให้นักลงทุนไทย นักลงทุนในภูมิภาคอาเซียน และชาวเมียนมาร์ โดยการให้บริการในระยะแรกส่วนใหญ่จะเป็นบริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ อัตราแลกเปลี่ยน เปิดบัญชีชำระค่าสินค้าระหว่างประเทศ(แอลซี) ให้แก่นักลงทุนไทยและลูกค้าที่ส่งมาจากสาขาในภูมิภาค เช่น ธุรกิจการค้าประเภทสินค้าอุปโภคบริโภค การตั้งโรงงานผลิตสินค้า ก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และพลังงาน แต่มีอุปสรรคในการขยายสินเชื่อคือชาวเมียนมาร์นิยมใช้จ่ายเงินสดซื้อสินค้าทุกชนิด

ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ BBL กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนกำลังจับตาการเลือกตั้งของเมียนมาร์ แม้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่นักลงทุนก็พร้อมจะลงทุน และมั่นใจว่าอีกไม่นานเมียนมาร์จะเข้าสู่ยุคทองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิพุ่งขึ้นจากปัจจุบันที่ 8% เป็น 10% โดยในปีนี้ประเมินว่าจะมีเงินลงทุนโดยตรงไหลเข้าลงทุนในเมียนมาร์ราว 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบปีที่แล้วอยู่ที่ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ