นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ จะนำผู้ประกอบการไทย ได้แก่ ผู้ประกอบการด้านภาพยนตร์และแอนิเมชั่น สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม เสื้อผ้า สิ่งทอ อัญมณี และสปา รวมจำนวน 36 บริษัท เข้าร่วมเจรจาการค้ากับนักธุรกิจและผู้นำเข้าสหรัฐฯ โดยผู้ประกอบการภาพยนตร์และแอนิเมชั่นไทยจำนวน 10 บริษัทจะเข้าร่วมเจรจาการค้าในงาน American Film Market & Conference 2015 (AFM) ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 36 ณ The Loews Santa Monica Beach Hotel
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเดียวกันกรมฯ จะจัดงาน Thai Night เพื่อส่งเสริมธุรกิจภาพยนตร์ บันเทิง และคอนเทนท์ไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศ อันจะเป็นการขยายเครือข่ายของธุรกิจบันเทิงไทยในตลาดสหรัฐฯ และตลาดโลก คาดว่าผู้ประกอบการไทยจะมีมูลค่าการซื้อขาย/จ้างผลิตไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ กรมฯ จะนำคณะผู้ประกอบการสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม เสื้อผ้า สิ่งทอ อัญมณี และสปา จำนวน 26 บริษัท บุกไปเจรจาการค้ากับนักธุรกิจสหรัฐฯ ที่บริษัท Northgate Markets (ซุปเปอร์มาร์เก็ตฮิสแปนิก Northgate ซึ่งมีมากกว่า 40 แห่งทั่วแคลิฟอร์เนีย) เพื่อขยายโอกาสในการนำเข้าสินค้าไทย อีกทั้งจะเชิญผู้ซื้อรายสำคัญของสหรัฐฯ มาร่วมเจรจาจับคู่ทางธุรกิจกับผู้ส่งออกของไทยด้วย คาดว่าจะมีนักธุรกิจสหรัฐฯ ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจไม่ต่ำกว่า 50 ราย
"กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายในการขยายตลาดกลุ่มผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม Ethnic ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของการขยายตลาดสินค้าและบริการไทยในสหรัฐอเมริกา โดยกลุ่ม Ethnic ในสหรัฐฯ ประกอบด้วยกลุ่มชาวฮิสแปนิก และกลุ่มชาวเอเชีย ซึ่งมีอัตราการขยายตัวของจำนวนประชากรอย่างรวดเร็ว รวมถึงพฤติกรรมการบริโภคที่มักจะใช้จ่ายเงินสำหรับการรับประทานอาหาร การแต่งตัว และการบันเทิง ทำให้ตลาด Ethnic โดยเฉพาะกลุ่มชาวฮิสแปนิกเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และได้รับความสนใจอย่างมาก" นางมาลี กล่าว
ปัจจุบันมีชาวฮิสแปนิกในสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 6 ของประชากรทั้งหมดของสหรัฐฯ ในปี 2020 จำนวนชาวฮิสแปนิกจะเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของประชากรรวมสหรัฐฯ โดยสินค้าที่เหมาะกับตลาดชาวฮิสแปนิกควรเน้นสินค้าพร้อมรับประทาน และสร้างการรับรู้โดยการสาธิตวิธีการปรุง และการให้ทดลองสินค้า อีกทั้งแนวโน้มสินค้าอาหารในปัจจุบันผู้บริโภคให้ความใส่ใจกับสุขภาพรวมถึงคุณภาพของอาหารเพิ่มมากขึ้น สินค้าที่ได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมจึงเป็นสินค้าสุขภาพประเภท Natural และ Organic นอกจากนี้ สินค้าประเภท Ready-to-Eat โดยเฉพาะอาหารแช่แข็งที่สามารถนำเข้าไมโครเวฟอุ่นรับประทานได้เลย ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากเหมาะกับสภาพการดำเนินชีวิตในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป
อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวด้วยว่า ในการเยือนสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์จะได้กล่าวปาฐกถาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการนำเข้าสินค้าจากไทยภายใต้กิจกรรม Thai – US Networking & Business Matching โดยจะได้เชิญผู้นำเข้าสินค้าของไทยรายสำคัญในสหรัฐอเมริกามาร่วมรับฟัง พร้อมทั้งเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริมการขายข้าวหอมมะลิออแกนิกส์ (Organic) เพื่อเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ต Sam’s Club ที่มีสาขากว่า 54 สาขาทั่วสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นการเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ต Mainstream ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ทำให้สามารถเพิ่มช่องทางการจำหน่ายข้าวออร์แกนิกส์ของไทยอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.58) สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย มีมูลค่า 18,023 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 2.7 สินค้าส่งออกอันดับต้นๆ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องนุ่งห่ม และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป คาดการณ์เป้าหมายส่งออกไปสหรัฐฯ ทั้งปี 2558 มูลค่า 26,174 ล้านเหรียญสหรัฐฯ