(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 35.53/55 ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร-เงินเฟ้อสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 3, 2015 11:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.53/55 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.60 บาท/ดอลลาร์

ทิศทางเงินบาทวันนี้คาดว่าจะยังแกว่งไม่มากนัก เพราะตลาดยังรอดูการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้ เช่น ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราเงินเฟ้อ เป็นต้น ซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะเป็นข้อมูลที่สำคัญในการที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะใช้ประกอบการพิจารณาตัดสินใจว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในรอบการประชุมเดือนธ.ค.หรือไม่

"ตลาดรอดูตัวเลขสำคัญของสหรัฐ ทั้งการจ้างงานนอกภาคเกษตร ตัวเลข CPI เพราะจะเป็นตัวชี้วัดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.หรือไม่" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50-35.60 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.5650 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(2 พ.ย.) อยู่ที่ 1.59992% และ THAI BAHT FIX 6M(2 พ.ย.) อยู่ที่ 1.63735%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.72/73 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 120.62 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1011/1015 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1004 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักอยู่ที่ระดับ 35.580 บาท/ดอลลาร์
  • ฟิทช์ เรทติ้งส์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก ประกาศปรับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินในประเทศระยะยาว (ไอดีอาร์) ของไทย ที่ระดับ BBB+ และ A- ตามลำดับ รวมทั้งภาพรวมความน่าเชื่อถือของไทยยังมีเสถียรภาพ
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 25-28 พ.ย. นี้ จะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นพร้อมกับคณะ นำโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย รวมทั้งการพัฒนาอุตสาห กรรมในรูปแบบคลัสเตอร์ พร้อมกับไปหารือกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับญี่ปุ่น
  • สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สภาผู้ส่งออก) หรือ สรท. คาดว่า การส่งออกในไตรมาส 4 ปี 2558 จะหดตัว 5% ทำให้ประมาณการมูลค่าการส่งออกทั้งปีอยู่ที่ 216,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 5% นับเป็นการหดตัวอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน หวังส่งออกปีหน้าฟื้นลุ้นโต 2% มูลค่า 2.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ อานิสงส์รัฐปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ-ยุทธศาสตร์การค้า จี้ชัดเจนร่วมขบวน TPP ขณะที่ยอดส่งออกข้าววูบ 12%
  • ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความระมัดระวังในการซื้อขายมากขึ้น ก่อนสหรัฐเปิดเผยข้อมูลจ้างงานในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักลงทุนเชื่อว่าอาจจะเป็นปัจจัยที่บ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้หรือไม่
  • เฟดยังคงจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะตัวเลขจ้างงานและเงินเฟ้อ ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยที่ช่วยกำหนดช่วงเวลาในการปรับขึ้นดอกเบี้ย และในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.ในเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 54.1 ในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 54.0 ของตัวเลขเบื้องต้น โดยค่าดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีครึ่งในเดือนก.ย. โดยพุ่งขึ้น 0.6% สู่ระดับ 1.09 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2008 และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
อังกฤษเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค.พุ่งสูงสุดในรอบ 16 เดือน
  • ผลการสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นมาตรวัดกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 55.5 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน จากระดับ 51.8 ในเดือนก.ย. ข้อมูลบ่งชี้ว่า ผลผลิตภาคการผลิตและยอดสั่งซื้อใหม่ได้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนต.ค. ในขณะที่มีการส่งสัญญาณถึงการขยายตัวของภาคการส่งออกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2557 สำนักข่าวซินหัวรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ