โดยการหารือในวันนี้ เป็นการหารือต่อเนื่องจากการที่ รมว.พาณิชย์ ได้นำผู้บริหารบริษัทดังกล่าวเข้าพบนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 ต.ค.58 ในโครงการ PRIME MINISTER MEETS CEOs (1st Series) ซึ่งผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นนักลงทุนรายใหญ่ในไทยและใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้มีโอกาสเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การผลิต การส่งออกของอุตสาหกรรมในภาวะปัจจุบัน รวมทั้งประเด็นปัญหาอื่นๆ ที่ภาคอุตสาหกรรมต้องการความสนับสนุนจากภาครัฐ
"ในส่วนของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ได้ให้ข้อมูลว่า ประเทศเพื่อนบ้านให้สิทธิประโยชน์ในการลงทุนที่น่าสนใจและเป็นการเฉพาะ (tailor-made) แต่ละรายอุตสาหกรรมมากกว่า รวมทั้งบางประเทศมีการให้สิทธิประโยชน์ในด้านภาษีที่มากกว่าของไทย" นางมาลี กล่าว
พร้อมระบุว่า นายกรัฐมนตรีสนใจในเรื่องนี้อย่างมาก และได้เชิญชวนให้กลุ่มอุตสาหกรรมคงฐานการผลิตในประเทศไทยต่อไปและหากมีประเด็นใดที่ภาครัฐสามารถสนับสนุนได้ก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกันเพื่อหาความเป็นไปได้ โดยมีหลักการว่า การดำเนินการใดๆ จะต้องเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ทั้งประเทศไทยและนักลงทุนต่างชาติ จึงเป็นที่มาของการหารือในวันนี้
อย่างไรก็ดี ภายหลังการหารือ รมว.พาณิชย์จะนำผลการหารือเสนอนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และนายกรัฐมนตรีต่อไป ภายใต้กรอบของคณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ (พกค.) ซึ่งมีกำหนดจัดประชุมนัดแรกในเร็วๆ นี้
อนึ่ง กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มีสัดส่วนการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 14.9 ของการส่งออกของไทยทั้งหมด โดยสินค้าสำคัญ คือ กลุ่ม Hard-Disk Drive และแผงวงจรไฟฟ้า ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ โดยบริษัทที่มาในวันนี้เป็น Top 3 ของบริษัทที่ส่งออกกลุ่มสินค้าอิเล็คทรอนิกส์จากประเทศไทย
"เนื่องจากผลตอบรับในโครงการ PRIME MINISTER MEETS CEOs (1st Series) ออกมาอย่างดีมากกระทรวงพาณิชย์ จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาการจัด PRIME MINISTER MEETS CEOs (2nd Series) ครั้งที่ 2 ในเดือนพ.ย.นี้ โดยจะนำผู้บริหารกลุ่มอุตสาหกรรมและภาคบริการต่างๆ ทยอย เข้าพบหารือกับนายกรัฐมนตรีต่อไป" อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว