นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า จากการหารือร่วมประชุมกับจีนในความร่วมมือ โครงการรถไฟฟ้าไทย-จีนครั้งที่8 เมื่อวันที่ 27-28 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปทางฝ่ายจีนจะส่งมอบแบบสำรวจเส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย, แก่งคอย-มาบตาพุดในเดือน พ.ย. และคาดว่ามีพิธีศิลาฤกษ์ศูนย์ควบคุมการเดินรถที่สถานีเชียงรากน้อยกลางเดือน ธ.ค.นี้ และคาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างโครงการในเดือน พ.ค.59
ส่วนรูปแบบการลงทุนและการเงิน ซึ่งล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายดอน ปรมัติวินัย รมว.ต่างประเทศ ได้หารือเรื่องวงเงินกู้ และในการประชุมครั้งที่ 8 รมว.คมนาคมได้ประชุมกับเอ็กซิมแบงก์ของจีน ซึ่งยังคงเสนออัตราดอกเบี้ยคงเดิม แต่ก็ยังมีเวลาที่จะเจรจาขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ภายใต้เงื่อนไขว่าอัตราดอกเบี้ยที่จีนจะให้นั้นต้องไม่มากกว่าประเทศอื่นที่จีนให้เงินกู้
ด้านความร่วมมือรถไฟไทย-ญี่ปุ่นนั้น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นในวันที่ 27-28 พ.ย.นี้ โดยจะร่วมลงนามโครงการรถไฟไทย-ญี่ปุ่นเส้นทาง กาญจนบุรี-กรุงเทพ-แหลมฉบัง-สระแก้ว ซึ่งขั้นตอนจะมีการปรับปรุงทางรถไฟที่มีอยู่เดิมไม่ให้มีสิ่งกีดขวาง ระยะทาง 160 กม. เพื่อเพิ่มความเร็วของรถไฟ ซึ่งส่วนที่ปรับปรุงเพียง 1 ใน 4 จะเริ่มได้ต้นปี 59 และจะมีการจัดตั้งบริษัทเดินรถร่วมกัน ซึ่งคาดว่. JBIC และ JOIN จะเข้ามาร่วม ส่วนฝ่ายไทยจะให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เข้าร่วมทุน
และขั้นตอนต่อไปจะพัฒนาเป็นทางคู่เส้นทางกาญจนบุรี-กรุงเทพ-แหลมฉบัง-สระแก้ว โดยเปลี่ยนหัวรถจักรดีเซลเป็นหัวรถจักรไฟฟ้าซึ่งจะต้องศึกษาเพิ่มเติม และทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม คาดว่าใช้เวลาศึกษาความเป็นไปได้โครงการไม่เกิน 1 ปี
นอกจากนี้จะมีการเซ็นสัญญาให้ญี่ปุ่นเข้าร่วม SPV ในโครงการทวาย ซึ่งจะทำให้มีผู้ร่วมงาน 3 ฝ่าย คือ ไทย เมียนมาร์และญี่ปุ่นจะถือหุ้นในสัดส่วนเท่าๆ กัน และกำหนดให้เดือน ธ.ค.นี้จะหารือเกี่ยวกับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจทวายระยะที่ 2 หรือระยะสมบูรณ์แบบ จากระยะแรก(Initial phase)ที่ให้บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวลอปเม้นต์ ( ITD) เป็นผู้บริหารพื้นที่ส่วนแรก
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า การลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐานมีความก้าวหน้าไปมาก และยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ทำฝห้เกิดความเสียเปรียบในโครงการรถไฟภายใต้ความร่วมมือไทย-จีน ซึ่งขณะนี้มีการเจรจาขอลดอัตราดอกเบี้ยลง
ทั้งนี้ ในเรื่องการก่อสร้างจะทำในเชิงสัญลักษณ์ไปก่อนในฐานะที่ปีนี้เป็นปีที่ 40 ของไทยและจีนจึงจะเริ่มดำเนินการเส้นทางประวัติศาสตร์ ก่อนจะลงรายละเอียดของการเจรจาต่อรองกันไป
ส่วนโครงการรถไฟร่วมกับทางญี่ปุ่นในเส้นตะวันตกไปยังตะวันออกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเราไม่ได้ให้ใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ หากสนใจก็เข้ามาลงทุน แต่หากไม่สนใจก็หาคนอื่นมาทำ