นอกจากนี้ ยังจะซักซ้อมความเข้าใจให้กับชาวนาผู้ปลูกข้าวเปลือกหอมมะลิเกี่ยวกับโครงการจำนำข้าวยุ้งฉาง เพื่อเก็บข้าวเอาไว้รอการขายในช่วงที่ผลผลิตข้าวออกน้อยลง ที่ได้เริ่มโครงการไปแล้วเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยขอให้ชาวนาที่ปลูกข้าวเปลือกหอมมะลิอย่าเพิ่งนำข้าวออกขายในช่วงนี้ เพราะผลผลิตข้าวเปลือกออกพร้อมกันจำนวนมาก อาจทำให้ขายได้ในราคาต่ำ
ส่วนโครงการของผู้ส่งออก ที่จะรับซื้อข้าวสารหอมมะลิในตลาดปริมาณ 100,000 ตันมาเก็บไว้เพื่อรอการขายในอีก 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นการซื้อเพิ่มเติมจากการซื้อขายตามปกติอยู่แล้ว ในราคาตันละ 26,000 บาท เมื่อคิดเป็นข้าวเปลือกจะอยู่ที่ตันละ 13,500 บาทนั้น คาดว่าภาคเอกชนจะเริ่มซื้อได้ในสัปดาห์นี้เป็นต้นไป ขอให้ชาวนาอย่าเพิ่งรีบขายเช่นกัน
"รัฐบาลมีมาตรการแก้ปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำแล้ว โดยเฉพาะข้าวเปลือกหอมมะลิในช่วงต้นฤดู หรือในเดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ ที่ผลผลิตข้าวออกพร้อมๆ กันจำนวนมาก ทั้งการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อชะลอการขาย การจำนำยุ้งฉาง การให้ภาคเอกชนรับซื้อข้าวสารครั้งละ 100,000 ตันนั้น น่าจะทำให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิปีนี้ไม่ต่ำกว่าตันละ 13,500 บาท ถ้าราคายังไม่สูงขึ้น ภาคเอกชนจะซื้อเพิ่มเติมอีกเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน ผู้นำเข้าฮ่องกง และสิงคโปร์ จะมาไทยเร็วๆ นี้ เพื่อดูผลผลิต และเจรจาสั่งซื้อข้าวหอมมะลิไทยด้วย"