หลังจากนี้ รฟท.จะตรวจคุณสมบัติที่จะใช้ระยะเวลาประมาณ 30 วัน และคาดว่าจะเปิดเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction)ภายในเดือน ธ.ค.นี้
อนึ่ง ตามที่ระบุไว้ในเอกสารประกวดราคา รฟท.ได้กำหนดแจ้งผู้ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 24 พ.ย.58 และกำหนดเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 8 ธ.ค.58
ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ทั้งสัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 2 รวมวงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท จะประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 9 พ.ย.58 เลื่อนจากวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเปิด e-Auction ประมาณวันที่ 19 หรือ 20 พ.ย.นี้ และคาดว่าจะได้ผู้รับเหมาภายในเดือน พ.ย.นี้
นายกมล กล่าวว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นถัดมาที่จะเปิดประมูล ได้แก่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดขายซองประมูลได้ในเดือน ธ.ค.นี้ และจะได้ผู้รับเหมาภายในเดือน ก.พ. 59
ส่วนช่วงนครปฐม-หัวหิน วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท, ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ วงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท และ ช่วงมาบกะเบา-จิระ วงเงิน 2.98 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะทยอยเปิดประมูลหลังจากนี้ และคาดว่าในเดือนมี.ค.59 จะได้ผู้รับเหมาทั้งหมด ทั้งนี้ 3 เส้นทางดังกล่าวอยุ่ระหว่างดำเนินขั้นตอนจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) และได้ทำขนานกับจัดทำเอกสารประกวดราคาพร้อมกัน ซึ่งได้เสนอทางกระทรวงคมนาคมและรอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่ออนุมัติ
"เราจะทำเอกสารประมูลขนานกันไป แล้วทยอยออกประมูลไปเรื่อยๆจนครบ 6 เส้นทาง คิดว่าไม่เกิน มี.ค.59 จะได้ตัวผู้รับเหมาทุกโครงการ ส่วนแหล่งเงิน ทางกระทรวงการคลังเป็นผู้จัดหา"รองผู้ว่าการ รฟท.กล่าว