ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าสลากที่ขายส่วนใหญ่หมดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่อำเภอวังสะพุง ที่สะท้อนให้เห็นว่ามี ยังมีผู้ค้ารายย่อยยังจองซื้อไม่ได้ ชี้ให้เห็นว่า ยังมีความต้องการสลากเกิน 100 ล้านฉบับ ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากความต้องการซื้อสลากที่เพิ่มขึ้นจริง หรือเกิดจากการกักตุนเพื่อฉวยโอกาสขึ้นราคาขายในช่วงวันออกรางวัล ซึ่งหากพบการกระทำผิดจะสั่งตัดสิทธิ์การจำหน่ายสลากและดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายทันที
นายธนวรรธน์ ยืนยันว่า ศักยภาพในการพิมพ์สลากสามารถพิมพ์ได้มากกว่า 100 ล้านฉบับโดยไม่ต้องเพิ่มเครื่องพิมพ์สลาก แต่การพิมพ์เพิ่มจะต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยและต้องไม่เป็นมอมเมาประชาชน และคาดว่า จำนวนสลากจะเพิ่มขึ้นในเดือนม.ค.อีก 44 ล้านฉบับ จาก 26 ล้านฉบับ หลังจากที่สำนักงานสลากฯไม่ต่อสัญญากับนิติบุคคล สมาคม และบริษัท จะมีเพียงพอต่อความต้องการมากขึ้น
นอกจากนี้ สำนักงานสลากฯจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบทรัพย์สินหรือการเสียภาษีของบุคคล เพื่อป้องกันการเกิดนอมินีรับฝากซื้อเพื่อขายต่อและโก่งราคา ซึ่งช่องทางการสั่งซื้อสลากที่สะดวกสุดขณะนี้คือการสั่งซื้อผ่านธนาคารของรัฐในสาขาย่อย และสั่งจองผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้ค้ารายย่อยอาจต้องขอให้ลูกหลานที่ทำเป็นช่วยจองผ่านระบบให้เพื่อความรวดเร็ว
ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันนี้ (5 พ.ย.) นายธนวรรธน์จะนำคณะสอบถามความเห็นจากผู้จำหน่ายสลากเกี่ยวกับการซื้อ-จอง สลากกินแบ่งรัฐบาล ณ ศูนย์การค้าสลากไทย จ.นนทบุรี