โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วงต้นของการประชุมว่า ในช่วงสถานการณ์ที่ผ่านมานั้น โลกในปัจจุบันนโยบายในการประกอบการค้า การลงทุนของประเทศอื่นมีการปรับตัวเพื่อให้ไปสู่การแข่งขัน เราก็มีความจำเป็นที่ต้องผลักดันเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน และเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่อันดับความเชื่อมั่นของประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อมั่นภายในประเทศที่ตัวเลขสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
อีกทั้ง การจัดลำดับความน่าเชื่อถือขององค์กรในต่างประเทศก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ดังนั้น ประเด็นสำคัญในขณะนี้เราต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจในแบบที่เป็นประชารัฐคือภายในของเราเอง
อย่างไรก็ตาม ต้องมีการปรับสมดุลในเรื่องของเศรษฐกิจหลายด้านทั้งในธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และ ขนาดใหญ่ และการค้าระหว่างประเทศ ประเด็นสำคัญคือการอำนวยความสะดวก ในการลดขั้นตอนการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ความโปร่งใสในการประกอบการ ละที่เป็นรูปธรรมที่สุด คือการขับเคลื่อนด้านการเมือง ในส่วนของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการประจำ ตั้งแต่ระดับปลัดกระทรวงลงไป และที่สำคัญที่สุดคือความร่วมมือจากภาคเอกชน และความสนใจจากภาคประชาสังคม และประชาชนโดยรวม ประกอบกันหลายอย่างด้วยกัน และที่สำคัญที่สุด คือ การสร้างความรับรู้ ความเข้าใจให้เกิดความร่วมมือกัน ไม่ใช่การสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นระหว่างกัน รวมทั้งการสร้างความมีเสถียรภาพ ในการทำงานในเวลานี้
"ความมีเอกภาพ ความน่าไว้วางใจ ความน่าเชื่อถืออยู่ที่ความร่วมมือของพวกเราทุกคนที่เป็นคนไทย จริง ๆ เพราะขณะนี้ การเมือง ทำให้การทำงานไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร"นายกรัฐมนตรี กล่าว