โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจัดสรรส่วนแบ่งให้ผู้ส่งออกที่เป็นสมาชิกจัดหาและส่งมอบข้าวให้ BULOG ตามยุทธศาสตร์การระบายข้าวรัฐร่วมกับเอกชน (G+P) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) การลงนามในสัญญาซื้อขายระหว่างกรมการค้าต่างประเทศกับ BULOG จะดำเนินการได้ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งสัญญาซื้อขายข้าวดังกล่าวส่งสัญญานเชิงบวกในการช่วยรองรับข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาดได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ สัญญาซื้อขายข้าวกับรัฐบาลอินโดนีเซียเป็นสัญญา G to G เพิ่มเติมจากที่รัฐบาลไทยชนะการประมูลและทำสัญญาขายข้าว G to G กับรัฐบาลฟิลิปปินส์ไปแล้วปริมาณ 300,000 ตัน เป็นข้าวขาว 25%
นอกจากนี้ รัฐบาลอยู่ระหว่างการส่งมอบข้าว ให้รัฐบาลจีนภายใต้สัญญาฉบับเดิมอีก 300,000 ตันให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2558 และอยู่ระหว่างกำหนดนัดหมายลงนามสัญญาซื้อขายข้าวฉบับใหม่กับรัฐบาลจีนอีก 1 ล้านตัน ซึ่งมีกำหนดส่งมอบในปี 2559 ต่อเนื่องจากสัญญาเก่า การที่รัฐบาลไทยสามารถทำสัญญาซื้อขายข้าว G to G ได้กับหลายประเทศดังกล่าว ส่งผลให้มีตลาดรองรับข้าวในช่วงต้นฤดูนี้กว่า 1 ล้านตัน นอกเหนือจากการซื้อขายโดยภาคเอกชนที่ยังคงมีอยู่ตามปกติ จึงคาดว่าจะส่งผลดีต่อราคาข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ที่กำลังออกสู่ตลาดในช่วงนี้
"เนื่องจากปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นในหลายประเทศที่คาดว่าจะมีผลต่อเนื่องจนถึงปีหน้า คาดว่าประเทศผู้นำเข้าข้าวสำคัญของไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียจะยังมีความต้องการนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งด้านหนึ่งถือว่าเป็นโอกาสดี ต่อการส่งออกและราคาข้าวของไทย ในขณะเดียวกันก็จะต้องติดตามสถานการณ์การผลิตการค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อประโยชน์ต่อการบริหารจัดการข้าวที่เหมาะสมในระยะต่อไป รวมทั้งส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกได้รับจะปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย"รมว.พาณิชย์ กล่าว