คลัง เผยหนี้สาธารณะคงค้างสิ้นเดือนก.ย. คิดเป็น 42.99% ของ GDP

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 9, 2015 10:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ 30 กันยายน 2558 มีจำนวน 5,783,323.19 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 42.99 ของ GDP เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 46,679.11 ล้านบาท

ทั้งนี้ สำหรับหนี้ของรัฐบาล มียอดหนี้คงค้างเพิ่มขึ้น 46,507.65 ล้านบาท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณและการบริหารหนี้ เพิ่มขึ้น 46,137.53 ล้านบาท มีรายละเอียด ดังนี้ 1. การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 15,637.53 ล้านบาท 2. การออกตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 10,115 ล้านบาท เพื่อทดแทนจำนวนตั๋วเงินคลัง ที่ประมูลได้ไม่ครบ 3. การเพิ่มขึ้นของตั๋วเงินคลังสุทธิ จำนวน 20,385 ล้านบาท และการปรับโครงสร้างเงินกู้ระยะสั้นไปเป็นพันธบัตร จำนวน 20,000 ล้านบาท ทำให้หนี้ระยะสั้นเพิ่มขึ้น 385 ล้านบาท

รวมทั้ง การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 13,420.34 ล้านบาท มีรายละเอียด ดังนี้

1.การกู้เงินเพื่อให้รัฐวิสาหกิจกู้ต่อ จำนวน 3,131.34 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น (1) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน 1,736.01 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สายสีน้ำเงิน และสายสีเขียว (2) การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 1,002.44 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และ 358.04 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง และ (3) กรมทางหลวง จำนวน 34.85 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) และ 2.การกู้เงินบาททดแทนการกู้เงินตราต่างประเทศ จำนวน 10,289 ล้านบาท

การชำระหนี้ต้นเงินกู้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จำนวน 12,399.99 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น ภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟู (FIDF 1) จำนวน 4,882.34 ล้านบาท และภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่ 2 (FIDF 3) จำนวน 7,517.65 ล้านบาท

สำหรับหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน มียอดหนี้คงค้างเพิ่มขึ้น 13,541.02 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก ผลของอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้หนี้ต่างประเทศสกุลต่างๆ เพิ่มขึ้น 3,472.34 ล้านบาท การเบิกจ่ายเงินกู้มากกว่าการชำระคืนหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้หนี้เพิ่มขึ้น 10,068.68 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นที่สำคัญเกิดจากการเช่าซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 777-300 ER จำนวน 5,845.57 ล้านบาท และการออกหุ้นกู้ 8,000 ล้านบาท ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และการออกพันธบัตรของการไฟฟ้านครหลวง 4,000 ล้านบาท เพื่อการลงทุนตามโครงการ

สำหรับหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) มียอดหนี้คงค้างลดลง 8,879.99 ล้านบาท โดยมีรายการที่สำคัญ ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรชำระหนี้เงินต้นที่กู้มาเพื่อดำเนินโครงการรับจำนำข้าว โดยใช้เงินจากการระบายข้าว จำนวน 6,774.49 ล้านบาท และชำระหนี้เงินต้นที่กู้มาเพื่อปรับโครงสร้างเงินทุนและรองรับภารกิจใหม่ จำนวน 1,000 ล้านบาท และธนาคารอาคารสงเคราะห์ไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด จำนวน 1,000 ล้านบาท

ขณะที่หน่วยงานของรัฐ มียอดหนี้คงค้างลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 4,489.57 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย จำนวน 4,516.06 ล้านบาท

สำหรับหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 เท่ากับ 5,783,323.19 ล้านบาท แบ่งเป็น หนี้ในประเทศ 5,423,040.12 ล้านบาท หรือร้อยละ 93.77 และหนี้ต่างประเทศ 360,283.07 ล้านบาท (ประมาณ 10,173 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือเท่ากับร้อยละ 6.23 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และหากเปรียบเทียบกับเงินสำรองระหว่างประเทศ จำนวน 155,533.43 ล้านเหรียญสหรัฐ (ข้อมูล ณ 30 กันยายน 2558) หนี้ต่างประเทศ จะคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 6.54 ของเงินสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพและความมั่นคงในด้านการเงินของประเทศ โดยหนี้สาธารณะแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาว 5,576,038.80 ล้านบาท หรือร้อยละ 96.42 และมีหนี้ระยะสั้น 207,284.39 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.58 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ