ไทย-ปากีสถานพร้อมร่วมมือทุกระดับทั้งการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยว-ความมั่นคง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 9, 2015 12:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังพล.อ.ราชัด มาห์มูด (Gen. Rashad Mahmood) ประธานคณะเสนาธิการร่วม กองทัพปากีสถาน เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ได้พบกับพล.อ.ราชัด มาห์มูด ประธานคณะเสนาธิการร่วม กองทัพปากีสถาน ในโอกาสเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกองทัพไทย และเชื่อมั่นว่าการมาเยือนไทยครั้งนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกัน

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของชาวปากีสถาน จากเหตุแผ่นดินไหวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนต.ค.58 และหวังว่าสถานการณ์ได้กลับสู่ภาวะปกติและประชาชนได้รับการช่วยเหลือและฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ตามเดิมแล้ว รวมทั้งแสดงความเสียใจต่อเหตุอาคารที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมถล่มเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันความสัมพันธ์ไทย-ปากีสถาน ราบรื่นและมีความใกล้ชิดในทุกมิติและทุกระดับมาเป็นเวลากว่า 64 ปี มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างสม่ำเสมอในทุกระดับ ตลอดจนการประชุมภายใต้กลไกความร่วมมือทวิภาคี และยืนยันนโยบายของรัฐบาลที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับปากีสถาน เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่าไทยยินดีให้การสนับสนุนบทบาทของปากีสถานในเวทีนานาชาติ

สำหรับความร่วมมือระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพปากีสถาน ทั้ง 2 ฝ่ายเชื่อว่าจะเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และหวังว่ากรอบความร่วมมือด้านส่งกำลังบำรุง (Thailand-Pakistan Joint Logistics Committee Meeting) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีเดียวระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพปากีสถานจะมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และสามารถขยายขอบเขตความร่วมมือที่เป็นไปได้ เพื่อประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกอบรมร่วมด้านการส่งกำลังบำรุง และการพิจารณาสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์ประเภทที่ 5 (สป.5) แก่ไทยในกรณีฉุกเฉินให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

ซึ่งนอกจากความร่วมมือด้านการทหารแล้ว นายกรัฐมนตรียังหวังให้มีการผลักดันความร่วมมือไทย-ปากีสถานในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนการท่องเที่ยว และการศึกษาควบคู่กันไป นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะผลักดันความร่วมมือต่อต้านการก่อการร้าย โดยเห็นว่าเป็นภัยต่อประชาคมโลก

ด้านประธานคณะเสนาธิการร่วม กองทัพปากีสถาน แสดงความขอบคุณประเทศไทยที่เป็นประเทศแรกที่ให้ความช่วยเหลือแก่ปากีสถานยามประสบภัยพิบัติ พร้อมกล่าวว่าบทบาททางด้านการทหารของนายกรัฐมนตรีจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารประเทศ และหวังให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้นำทหารระดับสูงให้มากขึ้น โดยเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างทหารและประชาชนของทั้งสองประเทศจะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ และภูมิภาค

นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศไทย หวังให้ไทยเร่งรัดการจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-ปากีสถาน (FTA) ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับจะไปหารือกับกระทรวงพาณิชย์ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ